ศาลปกครองสูงสุดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก ในคดีการถ่ายทอดแข่งขันฟุตบอลโลกผ่าน ฟรีทีวี ทั้ง 64 คู่ โดยบริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเมนท์ ผู้ได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดทัาย ยื่นฟ้องสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เนื่องจากไม่ต้องการปฏิบัติตามประกาศ กสทช.ในการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลผ่านฟรีทีวี
โดยนายวิบูลย์ กัมมาระบุตร ตุลาการผู้แถลงคดี ให้ความเห็นต่อศาลปกครองสูงสุด ว่า ควรกลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น ที่ระบุว่าการถ่ายทอดผ่านฟรีทีวีจะเป็นการละเมิดพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ของบริษัทอาร์เอสฯ ที่เป็นผู้ได้รับลิขสิทธิ์ เนื่องจากเห็นว่าบริษัทอาร์เอสฯ จำเป็นต้องถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลกครบทุกนัดการแข่งขันผ่านฟรีทีวี เพราะฟุตบอลโลกเป็นรายการกีฬาสำคัญตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป (กฎมัสต์แฮฟ) และประชาชนยังได้รับชมอย่างทั่วถึง
ส่วนกรณีที่บริษัทอาร์เอสฯ ระบุว่าการถ่ายทอดผ่านฟรีทีวีทำให้ไม่มีรายได้เพิ่มขึ้นนั้น ยังสามารถเรียกร้องค่าเสียหายขอให้ชดเชยในภายหลังได้ โดยศาลปกครองสูงสุดจะนัดฟังคำพิพากษาคดีดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ (11 มิ.ย.) เวลา 13.00 น.ที่ศาลปกครองสูงสุด
ด้านนางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อาร์เอสฯ กล่าวว่า จะรอคำพิพากษาสุดท้ายในวันพรุ่งนี้ แต่บริษัทอาร์เอสฯ ยืนยันว่าจะไม่ดำเนินการใดๆ ที่ขัดต่อกฎสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ที่อนุมัติให้ถ่ายทอดผ่านฟรีทีวีเพียง 22 คู่เท่านั้น และอาจต้องปล่อยให้โทรทัศน์จอดำทั้งหมด หากศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาต่างจากศาลปกครองชั้นต้น
โดยนายวิบูลย์ กัมมาระบุตร ตุลาการผู้แถลงคดี ให้ความเห็นต่อศาลปกครองสูงสุด ว่า ควรกลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น ที่ระบุว่าการถ่ายทอดผ่านฟรีทีวีจะเป็นการละเมิดพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ของบริษัทอาร์เอสฯ ที่เป็นผู้ได้รับลิขสิทธิ์ เนื่องจากเห็นว่าบริษัทอาร์เอสฯ จำเป็นต้องถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลกครบทุกนัดการแข่งขันผ่านฟรีทีวี เพราะฟุตบอลโลกเป็นรายการกีฬาสำคัญตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป (กฎมัสต์แฮฟ) และประชาชนยังได้รับชมอย่างทั่วถึง
ส่วนกรณีที่บริษัทอาร์เอสฯ ระบุว่าการถ่ายทอดผ่านฟรีทีวีทำให้ไม่มีรายได้เพิ่มขึ้นนั้น ยังสามารถเรียกร้องค่าเสียหายขอให้ชดเชยในภายหลังได้ โดยศาลปกครองสูงสุดจะนัดฟังคำพิพากษาคดีดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ (11 มิ.ย.) เวลา 13.00 น.ที่ศาลปกครองสูงสุด
ด้านนางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อาร์เอสฯ กล่าวว่า จะรอคำพิพากษาสุดท้ายในวันพรุ่งนี้ แต่บริษัทอาร์เอสฯ ยืนยันว่าจะไม่ดำเนินการใดๆ ที่ขัดต่อกฎสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ที่อนุมัติให้ถ่ายทอดผ่านฟรีทีวีเพียง 22 คู่เท่านั้น และอาจต้องปล่อยให้โทรทัศน์จอดำทั้งหมด หากศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาต่างจากศาลปกครองชั้นต้น
