อินโดนีเซียออกมาเตือนชัดๆ ในวันอังคาร (19 พ.ย.) ว่ากำลังทบทวนความร่วมมือที่มีอยู่กับออสเตรเลีย สืบเนื่องจากข้อกล่าวหาที่ระบุกันว่าแคนเบอร์ราแอบดักฟังโทรศัพท์ของประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุโธโยโน พร้อมกันนั้นก็เรียกร้องแดนจิงโจ้ให้ทำอะไรมากกว่านี้เพื่อเยียวยาแก้ไข ภายหลังจากนายกรัฐมนตรีโทนี แอ็บบอตต์พูดแก้เกี้ยวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย อีกทั้งปฏิเสธไม่ยอมขอโทษ
ตัวยุโธโยโนเองได้ทวิตด้วยข้อความแสดงความโกรธเคืองหลายต่อหลายรอบในวันอังคาร โดยระบุว่าสายสัมพันธ์ที่จาการ์ตามีอยู่กับแคนเบอร์ราได้เสียหายไปแล้ว และ “ผมขอตำหนิถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียที่มองว่า การดักฟังโทรศัพท์ในอินโดนีเซียเป็นเรื่องเล็กน้อย โดยปราศจากความสำนึกผิดแต่อย่างใด”
“การกระทำของสหรัฐฯ และออสเตรเลียสร้างความเสียหายอย่างมากต่อการเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์กับอินโดนีเซีย” ผู้นำอิเหนาทวิตต่อ โดยอ้างอิงถึงข้อกล่าวหาก่อนหน้านี้ที่ว่า อเมริกาและออสเตรเลียใช้สถานทูตในจาการ์ตาเป็นศูนย์สอดแนม
ประธานาธิบดีแดนอิเหนาสำทับว่า อินโดนีเซียต้องการคำตอบอย่างเป็นทางการและสามารถเข้าใจได้จากออสเตรเลีย พร้อมประกาศว่า จะทบทวนข้อตกลงความร่วมมือทวิภาคีอันเนื่องมาจากการกระทำที่สร้างความเจ็บปวดนี้
ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (18) จาการ์ตาได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตของตนกลับจากกรุงแคนเบอร์รา หลังจากสถานีวิทยุโทรทัศน์ออสเตรเลีย (เอบีซี) และหนังสือพิมพ์การ์เดียน ของอังกฤษ รายงานข่าวว่า หน่วยข่าวกรองแดนจิงโจ้พยายามดักฟังโทรศัพท์ยุโธโยโนนาน 15 วันในเดือนสิงหาคมปี 2009 ระหว่างที่เควิน รัดด์ จากพรรคแรงงาน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของออสเตรเลีย โดยสามารถดักฟังโทรศัพท์ได้อย่างน้อย 1 สาย
แอ็บบอตต์ยังแถลงต่อรัฐสภาในวันอังคารว่า ตนเสียใจที่รายงานดังกล่าวทำให้ยุโธโยโนกระอักกระอ่วน แต่ปฏิเสธที่จะขอโทษหรืออธิบายตามที่อินโดนีเซียร้องขอ เนื่องจากความมั่นคงของชาติกำหนดให้รัฐบาลต้องทำดีที่สุด และรัฐบาลของตนจะสนับสนุนแนวทางรัฐบาลชุดก่อนๆ
ตัวยุโธโยโนเองได้ทวิตด้วยข้อความแสดงความโกรธเคืองหลายต่อหลายรอบในวันอังคาร โดยระบุว่าสายสัมพันธ์ที่จาการ์ตามีอยู่กับแคนเบอร์ราได้เสียหายไปแล้ว และ “ผมขอตำหนิถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียที่มองว่า การดักฟังโทรศัพท์ในอินโดนีเซียเป็นเรื่องเล็กน้อย โดยปราศจากความสำนึกผิดแต่อย่างใด”
“การกระทำของสหรัฐฯ และออสเตรเลียสร้างความเสียหายอย่างมากต่อการเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์กับอินโดนีเซีย” ผู้นำอิเหนาทวิตต่อ โดยอ้างอิงถึงข้อกล่าวหาก่อนหน้านี้ที่ว่า อเมริกาและออสเตรเลียใช้สถานทูตในจาการ์ตาเป็นศูนย์สอดแนม
ประธานาธิบดีแดนอิเหนาสำทับว่า อินโดนีเซียต้องการคำตอบอย่างเป็นทางการและสามารถเข้าใจได้จากออสเตรเลีย พร้อมประกาศว่า จะทบทวนข้อตกลงความร่วมมือทวิภาคีอันเนื่องมาจากการกระทำที่สร้างความเจ็บปวดนี้
ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (18) จาการ์ตาได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตของตนกลับจากกรุงแคนเบอร์รา หลังจากสถานีวิทยุโทรทัศน์ออสเตรเลีย (เอบีซี) และหนังสือพิมพ์การ์เดียน ของอังกฤษ รายงานข่าวว่า หน่วยข่าวกรองแดนจิงโจ้พยายามดักฟังโทรศัพท์ยุโธโยโนนาน 15 วันในเดือนสิงหาคมปี 2009 ระหว่างที่เควิน รัดด์ จากพรรคแรงงาน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของออสเตรเลีย โดยสามารถดักฟังโทรศัพท์ได้อย่างน้อย 1 สาย
แอ็บบอตต์ยังแถลงต่อรัฐสภาในวันอังคารว่า ตนเสียใจที่รายงานดังกล่าวทำให้ยุโธโยโนกระอักกระอ่วน แต่ปฏิเสธที่จะขอโทษหรืออธิบายตามที่อินโดนีเซียร้องขอ เนื่องจากความมั่นคงของชาติกำหนดให้รัฐบาลต้องทำดีที่สุด และรัฐบาลของตนจะสนับสนุนแนวทางรัฐบาลชุดก่อนๆ