นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปที่ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก พร้อมด้วย ส.ส.พิษณุโลก ประกอบด้วย น.พ.วรงด์ เดชกิจวิกรม นายนคร มาฉิม และนายจุติ ไกรกฤษ์ ดูสภาพข้าวเน่าในพื้นที่ โดยมีชาวนายืนชูป้ายและแจงปัญหาข้าวเน่าตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลกับผู้นำฝ่ายค้าน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มาตรวจพื้นที่ อ.โบสถ์ มีการทำลายข้าวเผาข้าวในโกดังเป็นข้าวในโครงการจำนำนานแล้ว ทุกคนเล่าตรงกันว่ามีการเผา มีเสียงระเบิด ปัจจุบันมีการขุดเพื่อทำลายหลักฐาน มีข้าว มีกระสอบ มีกลิ่นน้ำก็ฟ้องชัดว่ามีการหมักข้าวเพื่อมีการทำลาย สุดท้ายก็แสดงให้เห็นว่าโครงการนี้ล้มเหลว มีทุจริต ไม่ชอบมาพากล สุดท้ายผลกระทบปลายทางก็กระทบคือชาวนาและประชาชน ขายข้าวไม่ได้ราคา เงินก็ได้ช้า ต้องเป็นหนี้เป็นสินมากขึ้น ที่มาตรวจสอบวันนี้จะนำไปปรับใช้กับนโยบายของพรรค ชาวนาต้องได้เงินไม่ต่ำกว่าจำนำข้าว โดยจะไปปรับใช้ระบบส่วนต่างของโครงการประกันราคาข้าว เพราะยืนยันจากปากชาวบ้านได้เลยว่าประกันราคาไม่มีปัญหาเรื่องเงินหยุดชะงัก เงินรั่วไหล ส่วนปัญหาทุจริตข้าวเกิดความสูญเสียมากมาย ตัวเลขที่เราใช้จากหอการค้า คือ 235,000 ล้านบาท เป็นแค่ประมาณการ เฉพาะแค่การจัดซื้อจัดจ้าง จริงๆ แล้วถ้ามีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวที่พูดถึงเงินตัวเลขยังไม่นำกลับเข้าไปสู่ระบบงบประมาณจะเห็นมีความเสียหายชัดเจนมากกว่านี้ แต่วันนี้เราจะเห็นมาตรการจำนวนมากเพื่อเอาเงินมาหมุนเวียนกลับเข้าไปเพื่อมิให้รับรู้ชัดๆ ว่า รัฐบาลขาดทุนเท่าใด อีกทั้งจะทำอย่างไรกับสต็อกข้าวที่มีอยู่เท่าใด ภาระหนัก พี่น้องประชาชนยังพูดเองว่าถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปประเทศชาติเจ๊งอยู่ไม่ได้ เขาก็เป็นห่วงลูกหลานจะอยู่ได้อย่างไร ส่วนจะนำเรื่องนี้จะนำไปอภิปรายไม่ไว้วางในในสมัยหน้าหรือไม่นั้นจะต้องดูก่อนเพราะมีหลายเรื่อง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มาตรวจพื้นที่ อ.โบสถ์ มีการทำลายข้าวเผาข้าวในโกดังเป็นข้าวในโครงการจำนำนานแล้ว ทุกคนเล่าตรงกันว่ามีการเผา มีเสียงระเบิด ปัจจุบันมีการขุดเพื่อทำลายหลักฐาน มีข้าว มีกระสอบ มีกลิ่นน้ำก็ฟ้องชัดว่ามีการหมักข้าวเพื่อมีการทำลาย สุดท้ายก็แสดงให้เห็นว่าโครงการนี้ล้มเหลว มีทุจริต ไม่ชอบมาพากล สุดท้ายผลกระทบปลายทางก็กระทบคือชาวนาและประชาชน ขายข้าวไม่ได้ราคา เงินก็ได้ช้า ต้องเป็นหนี้เป็นสินมากขึ้น ที่มาตรวจสอบวันนี้จะนำไปปรับใช้กับนโยบายของพรรค ชาวนาต้องได้เงินไม่ต่ำกว่าจำนำข้าว โดยจะไปปรับใช้ระบบส่วนต่างของโครงการประกันราคาข้าว เพราะยืนยันจากปากชาวบ้านได้เลยว่าประกันราคาไม่มีปัญหาเรื่องเงินหยุดชะงัก เงินรั่วไหล ส่วนปัญหาทุจริตข้าวเกิดความสูญเสียมากมาย ตัวเลขที่เราใช้จากหอการค้า คือ 235,000 ล้านบาท เป็นแค่ประมาณการ เฉพาะแค่การจัดซื้อจัดจ้าง จริงๆ แล้วถ้ามีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวที่พูดถึงเงินตัวเลขยังไม่นำกลับเข้าไปสู่ระบบงบประมาณจะเห็นมีความเสียหายชัดเจนมากกว่านี้ แต่วันนี้เราจะเห็นมาตรการจำนวนมากเพื่อเอาเงินมาหมุนเวียนกลับเข้าไปเพื่อมิให้รับรู้ชัดๆ ว่า รัฐบาลขาดทุนเท่าใด อีกทั้งจะทำอย่างไรกับสต็อกข้าวที่มีอยู่เท่าใด ภาระหนัก พี่น้องประชาชนยังพูดเองว่าถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปประเทศชาติเจ๊งอยู่ไม่ได้ เขาก็เป็นห่วงลูกหลานจะอยู่ได้อย่างไร ส่วนจะนำเรื่องนี้จะนำไปอภิปรายไม่ไว้วางในในสมัยหน้าหรือไม่นั้นจะต้องดูก่อนเพราะมีหลายเรื่อง
