พิษณุโลก - “อภิสิทธิ์” ลงตรวจข้าวเน่าหลังโกดังวัดโบสถ์ ชี้ไม่ชอบมาพากล เผา-ทำลายหลักฐานชัด ย้ำจำนำข้าวทุจริต คอร์รัปชัน รั่วไหลทุกขั้นตอน ขณะที่ชาวนาบอกชัดขืนรัฐบาลจำนำข้าวต่ออีก 2 ปี ประเทศเจ๊ง ชี้โคตรโกงจริง ยันจำนำไม่เคยได้ถึงหมื่นห้า นอกโควตาเจอกดเหลือ 5,300 ด้วยซ้ำ
วันนี้ (26 ต.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์-ผู้นำฝ่ายค้าน ได้เดินทางมาที่ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก เพื่อเข้าตรวจสอบพื้นบริเวณหลังโกดังข้าว หจก.เกษตรไพศาลธัญกิจ ที่มีการนำข้าวในโครงการรับจำนำมากองทิ้งไว้ก่อนหน้านี้จนเน่าเสีย ก่อนที่จะนำรถแบ็กโฮมาขุด และเคลื่อนย้ายข้าวออกไป โดยมี นพ.วรงด์ เดชกิจวิกรม นายนคร มาฉิม และ นายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก ให้การต้อนรับ และพาเดินดูสภาพข้าวเน่าท่ามกลางกลิ่นเหม็น และปลาตายเพราะน้ำเน่าเสีย โดยไม่มีการทำความสะอาด ยังคงอยู่สภาพเดิมๆ คือ เน่าเหมือนเดิม
ขณะที่ชาวบ้านละแวกข้างเคียงที่เดือดร้อนก็ได้มายืนชูป้าย พร้อมแจ้งถึงสภาพปัญหาข้าวเน่า และปัญหาโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลต่อผู้นำฝ่ายค้าน โดยเฉพาะชาวนาขายข้าวไปแล้ว 2 เดือนยังไม่ได้รับเงิน
นายวิเชียร นางบวช อดีตกำนัน ต.หอกลอง อ.พรหมพิราม พิษณุโลก บอกว่า ตนอายุกว่า 66 ปี ปลูกข้าวมาตลอดชีวิต ถามว่าจำนำข้าวเกวียนละหมื่นห้าจริงไหม เพราะทุกวันนี้ขายได้แค่ 10,200 บาทต่อตันเท่านั้น ถ้าเกินโควตาก็ถูกกดราคาเหลือ 5,300 บาทต่อตัน อย่างนี้ชาวนาแย่ รัฐบาลบริหารงานผิดพลาด ยิ่งถ้าลดราคารับจำนำลงจาก 15,000 เหลือ 13,000 บาทต่อเกวียน ชาวนาคงเหลือเงินแค่ 8,000 บาท
“ถ้ารัฐบาลเดินหน้าโครงการรับจำนำต่อไปอีก 2 ปี ประเทศชาติพัง บ้านเมืองเจ๊ง วันนี้ขายข้าวไม่ได้ตังค์ ต้องทนไปกู้ยืมก็ร้อยละ 3 อยากให้ถามว่า รัฐบาลช่วยเสียดอกเบี้ยให้หน่อยได้ไหม ฝากไปถามรัฐบาลว่า เมื่อไรขายข้าวได้เงินเร็วๆ ตอนนี้แย่แล้ว อีกทั้งยังไม่รู้กำหนดเลยว่าจะได้เงินเมื่อใด รัฐบาลนี้โคตรโกงเลยจริงๆ บริหารงานไม่เข้าท่า เจ๊งไปไม่หมด ต่อไปก็เหมือนกับเมืองกรีซแน่นอน ตายแน่นอนปี 58 ถ้าไทยเปิดเสรีอาเซียน วันนี้ซื้อเสื้อตัวละ 200 บาท ถ้าเป็นเสรีอาเชียนเหลือตัวละ 60 บาท ธุรกิจประเทศไทยจะเดินไปทางไหน เจ๊งอย่างเดียว”
ขณะที่ นพ.วรงค์ บอกเพียงว่า รอให้ นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ สมัยหน้า จะเอาส่วนต่างกลับมา ตามโครงการรับประกันราคาข้าว
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์-ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า ขอย้ำต่อพี่น้องประชาชนกรณีโครงการการรับจำนำข้าวมีการทุรจิต คอร์รัปชันกันมาก รับจำนำข้าวถือเป็น 1 ในหลายโครงการที่รั่วไหลทุกขั้นตอน เมื่อสอบถามเกษตรกรทราบว่าตั้งแต่เริ่มต้นว่า ได้เท่าไร ก็พบความจริงว่า หมื่นห้า ไม่ต้องพูดถึง ถามอีกว่า จะได้เงินเมื่อใด ก็ตอบไม่ได้ ยิ่งขายข้าวนอกโควตาราคาก็เฉลี่ยลงมาอีก ชาวนาได้เงินน้อยมาก ที่สำคัญหลายคนร่วมโครงการจำนำแล้วยังไม่ได้เงิน สุดท้ายชาวบ้าน และชาวนาก็เดือดร้อน เงินไม่ได้ก็ต้องไปกู้เงิน แถมมีดอกเบี้ยอีก
และที่สำคัญตอนนี้ชาวบ้านเริ่มมองเห็นแล้วว่า โครงการนี้รัฐบาลมารับซื้อทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วก็ไปบริหารจัดการ แต่กลับขายข้าวไม่ได้ เงินก็ช้าอย่างที่เป็นข่าวอยู่ เมื่อเงินในระบบไม่หมุนกลับมา ชาวบ้านก็เดือดร้อน
สำหรับความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้นโครงการนี้ เห็นชัดกรณีที่ตนลงมาตรวจพื้นที่ อ.โบสถ์ ว่า มีการทำลายข้าว เผาข้าวในโกดัง เป็นข้าวในโครงการจำนำนานแล้ว แต่ในที่สุดก็มีการทำลาย เพราะทุกคนเล่าตรงกันว่ามีการเผา มีเสียงระเบิด ปัจจุบันมีการขุดเพื่อทำลายหลักฐาน มีข้าว มีกระสอบ มีกลิ่นน้ำเน่า ก็ฟ้องชัดว่า มีการหมักข้าวเพื่อทำลาย
“ก็แสดงให้เห็นว่าโครงการนี้ล้มเหลว มีทุจริต ไม่ชอบมาพากล สุดท้ายผลกระทบปลายทางก็คือ ชาวนา และประชาชน ขายข้าวไม่ได้ราคา เงินก็ได้ช้า ต้องเป็นหนี้เป็นสินมากขึ้น”
ส่วนที่มาตรวจสอบวันนี้จะนำไปปรับได้นโยบายของพรรคหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ บอกว่า แน่นอนว่าจะนำไปปรับใช้ ชาวนาต้องได้เงินไม่ต่ำกว่าจำนำข้าว โดยจะไปปรับใช้ระบบส่วนต่างของโครงการประกันราคาข้าว เพราะยืนยันจากปากชาวบ้านได้เลยว่า ประกันราคาไม่มีปัญหาเรื่องเงินหยุดชะงัก เงินรั่วไหล ส่วนจำนำข้าวเกิดความสูญเสียมากมาย
ในประเด็นความสูญเสียของการรับจำนำข้าวประเทศชาติเสียหายเท่าใดนั้น นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่า ตัวเลขที่เราใช้จากหอการค้า คือ 235,000 ล้านบาท นี่เป็นแค่ประมาณการ เฉพาะแค่การจัดซื้อจัดจ้าง จริงๆ แล้วถ้ามีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวที่พูดถึง เงินยังไม่นำกลับเข้าไปสู่ระบบงบประมาณ จะเห็นความเสียหายชัดเจนมากกว่านี้
แต่วันนี้เราจะเห็นมาตรการจำนวนมากเพื่อเอาเงินมาหมุนเวียนกลับเข้าไป เพื่อไม่ให้รับรู้ชัดๆ ว่า รัฐบาลขาดทุนเท่าใด อีกทั้งจะทำอย่างไรกับสต๊อกข้าวที่มีอยู่เท่าใด
“ภาระหนัก พี่น้องประชาชนยังพูดเองว่า ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปประเทศชาติเจ๊ง อยู่ไม่ได้ เขาก็เป็นห่วงลูกหลานจะอยู่ได้อย่างไร ส่วนจะนำเรื่องนี้ จะนำไปอภิปรายไม่ไว้วางในในสมัยหน้าหรือไม่นั้น จะต้องดูก่อน เพราะมีหลายเรื่อง”