ร.ท.(หญิง) สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลพูดความจริงกับประชาชนว่า รถไฟความเร็วสูงจะไปถึงแค่ จ.นครราชสีมา ไม่ใช่ จ.หนองคายว่า ขอให้ นายอภิสิทธิ์ เลิกพูดโกหกได้แล้ว และยืนยันว่า ภายใน 7 ปี ชาวหนองคาย จะได้ใช้รถไฟความเร็วสูง ซึ่งคาดว่าจะเสร็จพร้อมๆ กับ รถไฟความเร็วสูงสายเชียงใหม่ และรัฐมนตรีว่ากระทรวงคมนาคม ระบุว่า ได้รับอนุมัติงบประมาณโครงการดังกล่าว เพื่อศึกษาความเหมาะสมในการก่อสร้างแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จ และประกวดราคาได้ในปี 2559 และจะแล้วเสร็จในปี 2564
ร.ท.(หญิง)สุณิสา กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เสนอให้ร่วมทุนกับต่างชาติ เพื่อก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงนั้น ทางกระทรวงคมนาคมเห็นว่า เป็นแนวคิดที่เสี่ยง โดยเฉพาะการร่วมทุนแบบที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ เคยคิดจะทำเมื่อปี 2553 สมัยเป็นรองนายกรัฐมนตรีที่จะตั้งบริษัทร่วมทุนกับต่างชาติ โดยที่ยังไม่ได้ศึกษารายละเอียดโครงการอย่างรอบคอบ แต่กลับกำหนดให้ไทยเป็นฝ่ายค้ำประกันหนี้ทั้งหมดของต่างชาติ และต้องยกทรัพย์สิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ดินของการรถไฟให้ต่างชาติใช้ประโยชน์ในระยะยาว หากทำแบบพรรคประชาธิปัตย์ ประเทศก็จะเป็นหนี้เหมือนกัน แต่เป็นการก่อหนี้ที่สูญเปล่า ไม่ได้ทรัพย์สินกลับคืนมาเป็นสมบัติของคนไทย ผิดกับโครงการลงทุนด้านคมนาคมขนส่งของรัฐบาลชุดนี้ ที่เป็นการลงทุนที่ไม่สูญเปล่า เพราะเป็นการก่อหนี้ที่สร้างรายได้ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยสิ่งก่อสร้างต่างๆ จะเป็นสมบัติของคนไทยในระยะยาว
ร.ท.(หญิง)สุณิสา กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เสนอให้ร่วมทุนกับต่างชาติ เพื่อก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงนั้น ทางกระทรวงคมนาคมเห็นว่า เป็นแนวคิดที่เสี่ยง โดยเฉพาะการร่วมทุนแบบที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ เคยคิดจะทำเมื่อปี 2553 สมัยเป็นรองนายกรัฐมนตรีที่จะตั้งบริษัทร่วมทุนกับต่างชาติ โดยที่ยังไม่ได้ศึกษารายละเอียดโครงการอย่างรอบคอบ แต่กลับกำหนดให้ไทยเป็นฝ่ายค้ำประกันหนี้ทั้งหมดของต่างชาติ และต้องยกทรัพย์สิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ดินของการรถไฟให้ต่างชาติใช้ประโยชน์ในระยะยาว หากทำแบบพรรคประชาธิปัตย์ ประเทศก็จะเป็นหนี้เหมือนกัน แต่เป็นการก่อหนี้ที่สูญเปล่า ไม่ได้ทรัพย์สินกลับคืนมาเป็นสมบัติของคนไทย ผิดกับโครงการลงทุนด้านคมนาคมขนส่งของรัฐบาลชุดนี้ ที่เป็นการลงทุนที่ไม่สูญเปล่า เพราะเป็นการก่อหนี้ที่สร้างรายได้ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยสิ่งก่อสร้างต่างๆ จะเป็นสมบัติของคนไทยในระยะยาว
