นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า จากการที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางไปตรวจราชการพื้นที่รถไฟในภาคตะวันออกเฉียงเหนือพบว่า มีประชาชนเข้ามาใช้บริการรถไฟฟรีเป็นจำนวนมาก และแต่ละตู้มีผู้โดยสารแน่นเกือบทุกขบวน จึงเสนอให้มีการเพิ่มขบวนรถไฟ หรือเพิ่มตู้รถไฟให้มีจำนวนมาก เพื่อให้สามารถขนประชาชนให้มากขึ้น จะช่วยแก้ไขบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดโดยให้ ร.ฟ.ท.เร่งหาข้อสรุป
ทั้งนี้ จากสถิติการโดยสารในปี 2554 ร.ฟ.ท.ให้บริการเดินรถไฟฟรี 172 ขบวน (รถเชิงสังคม 164 ขบวน และรถเชิงพาณิชย์ชั้นสาม 8 ขบวน) โดยรัฐบาลต้องชดเชยรายได้การโดยสารให้กับ ร.ฟ.ท.ปีละ 1,055 ล้านบาท แต่ยังไม่สามารถแยกกลุ่มผู้โดยสารที่สมควร จะได้รับสิทธิ์ดังกล่าวได้ชัดเจน หากต้องการแยกกลุ่มของผู้โดยสารที่จะได้รับผลประโยชน์จริงๆ จะต้องมีการกำหนดคุณสมบัติของประชาชนกลุ่มนี้ให้ชัดเจน มีการขึ้นทะเบียน และออกบัตรพิเศษสำหรับใช้โดยสารรถไฟฟรีถือใช้ ซึ่งผู้ได้รับสิทธิ์ดังกล่าวจะสามารถใช้บริการโดยสารรถไฟชั้น 3 ฟรี เฉพาะค่าโดยสารทุกประเภทขบวนรถ และหากมีสถิติการโดยสารเหมือนเดิมรัฐบาลจะต้องชดเชยรายได้การโดยสารให้ ร.ฟ.ท.ปีละ 1,001 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับที่รัฐรับภาระอยู่ในปัจจุบัน
สำหรับการปรับปรุงคุณภาพบริการ ร.ฟ.ท.ได้เข้มงวดกวดขันทั้งด้านความ สะอาดบนขบวนรถ โดยเฉพาะผู้รับเหมาที่ทำความสะอาดของเอกชน และให้มีการเพิ่มการควบคุมอุปกรณ์ทำความสะอาด ตลอดจนมีการจัดจ้างเพิ่มขึ้นสำหรับขบวนรถที่ยังไม่มี ส่วนพนักงานขบวนรถก็ได้กำชับให้ตระหนักในการบริการ โดยเอาใจใส่ในการปฏิบัติงานเพิ่มขึ้นด้วย
ส่วนเรื่องความตรงต่อเวลาขบวนรถ เนื่องจาก ร.ฟ.ท.กำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงสภาพทาง สะพาน และระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ในระยะแรกนี้ จึงจำเป็นต้องมีการปรับตาราง เวลาเดินรถเชิงสังคมเสียใหม่ทั้งระบบ และในระยะต่อไปจะจัดหารถดีเซลรางรุ่นใหม่มาใช้งาน เพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์ในการให้บริการ และในแผนระยะยาวจะมีการเปลี่ยนเป็นระบบรถไฟฟ้า โดยเริ่มจากขบวนรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงก่อน
นายประภัสร์ กล่าวถึงโครงสร้าง อัตราค่าโดยสารรถไฟชั้น 3 ในปัจจุบันว่า เมื่อเปรียบเทียบกับการขนส่งทางอื่นๆ ในระยะทาง 1-100 กิโลเมตรแรก จะเก็บอยู่ 0.215 บาทต่อคนต่อกิโลเมตร ขณะนี้ ร.ฟ.ท.มีต้นทุนผันแปรระยะสั้น อาทิ ค่าน้ำมัน ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าซ่อมรถจักร รถพ่วง ทาง และอาณัติสัญญาณอยู่ที่ 0.685 บาทต่อคนต่อกิโลเมตร หากปรับเพิ่มโครงสร้างอัตราค่าโดยสารรถไฟชั้น 3 ร้อยละ 10 จะเก็บ เพียง 0.237 บาทต่อคนต่อกิโลเมตร ขณะนี้รถยนต์ บขส.มีอัตราค่าโดยสารรถประจำ ทางเฉลี่ย 0.45 บาทต่อคนต่อกิโลเมตร
ทั้งนี้ จากสถิติการโดยสารในปี 2554 ร.ฟ.ท.ให้บริการเดินรถไฟฟรี 172 ขบวน (รถเชิงสังคม 164 ขบวน และรถเชิงพาณิชย์ชั้นสาม 8 ขบวน) โดยรัฐบาลต้องชดเชยรายได้การโดยสารให้กับ ร.ฟ.ท.ปีละ 1,055 ล้านบาท แต่ยังไม่สามารถแยกกลุ่มผู้โดยสารที่สมควร จะได้รับสิทธิ์ดังกล่าวได้ชัดเจน หากต้องการแยกกลุ่มของผู้โดยสารที่จะได้รับผลประโยชน์จริงๆ จะต้องมีการกำหนดคุณสมบัติของประชาชนกลุ่มนี้ให้ชัดเจน มีการขึ้นทะเบียน และออกบัตรพิเศษสำหรับใช้โดยสารรถไฟฟรีถือใช้ ซึ่งผู้ได้รับสิทธิ์ดังกล่าวจะสามารถใช้บริการโดยสารรถไฟชั้น 3 ฟรี เฉพาะค่าโดยสารทุกประเภทขบวนรถ และหากมีสถิติการโดยสารเหมือนเดิมรัฐบาลจะต้องชดเชยรายได้การโดยสารให้ ร.ฟ.ท.ปีละ 1,001 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับที่รัฐรับภาระอยู่ในปัจจุบัน
สำหรับการปรับปรุงคุณภาพบริการ ร.ฟ.ท.ได้เข้มงวดกวดขันทั้งด้านความ สะอาดบนขบวนรถ โดยเฉพาะผู้รับเหมาที่ทำความสะอาดของเอกชน และให้มีการเพิ่มการควบคุมอุปกรณ์ทำความสะอาด ตลอดจนมีการจัดจ้างเพิ่มขึ้นสำหรับขบวนรถที่ยังไม่มี ส่วนพนักงานขบวนรถก็ได้กำชับให้ตระหนักในการบริการ โดยเอาใจใส่ในการปฏิบัติงานเพิ่มขึ้นด้วย
ส่วนเรื่องความตรงต่อเวลาขบวนรถ เนื่องจาก ร.ฟ.ท.กำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงสภาพทาง สะพาน และระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ในระยะแรกนี้ จึงจำเป็นต้องมีการปรับตาราง เวลาเดินรถเชิงสังคมเสียใหม่ทั้งระบบ และในระยะต่อไปจะจัดหารถดีเซลรางรุ่นใหม่มาใช้งาน เพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์ในการให้บริการ และในแผนระยะยาวจะมีการเปลี่ยนเป็นระบบรถไฟฟ้า โดยเริ่มจากขบวนรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงก่อน
นายประภัสร์ กล่าวถึงโครงสร้าง อัตราค่าโดยสารรถไฟชั้น 3 ในปัจจุบันว่า เมื่อเปรียบเทียบกับการขนส่งทางอื่นๆ ในระยะทาง 1-100 กิโลเมตรแรก จะเก็บอยู่ 0.215 บาทต่อคนต่อกิโลเมตร ขณะนี้ ร.ฟ.ท.มีต้นทุนผันแปรระยะสั้น อาทิ ค่าน้ำมัน ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าซ่อมรถจักร รถพ่วง ทาง และอาณัติสัญญาณอยู่ที่ 0.685 บาทต่อคนต่อกิโลเมตร หากปรับเพิ่มโครงสร้างอัตราค่าโดยสารรถไฟชั้น 3 ร้อยละ 10 จะเก็บ เพียง 0.237 บาทต่อคนต่อกิโลเมตร ขณะนี้รถยนต์ บขส.มีอัตราค่าโดยสารรถประจำ ทางเฉลี่ย 0.45 บาทต่อคนต่อกิโลเมตร
