ผู้บาดเจ็บ 23 รายจากเหตุรถไฟด่วนนครพิงค์ตกรางที่ จ.แพร่ ทยอยกลับบ้านแล้ว เหลือ 4 รายต้องส่งตัวรักษาต่อที่ รพ.ในจังหวัดแพร่ ด้าน ร.ฟ.ท.เร่งกู้รถที่ตกรางทั้ง 7 โบกี้ พร้อมแจ้งหยุดเดินรถสายเหนือ 3 ขบวนในวันนี้ (17 ก.ค.)
นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) แจ้งว่า จากเหตุขบวนรถไฟด่วนนครพิงค์ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ตกรางที่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ เมื่อเวลา 03.45 น. วันนี้ (17 ก.ค.) โดยขณะที่ขบวนรถไฟด่วนพิเศษที่ 1 (กรุงเทพฯ-เชียงใหม่) วิ่งถึง สทล. 541/11 ระหว่างสถานีปากปาน กับสถานีแก่งหลวง อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ รถพ่วงในขบวนซึ่งประกอบด้วยรถนั่ง-นอนปรับอากาศชั้น 2 จำนวน 5 คัน รถนั่ง-นอนปรับอากาศชั้น1 และรถเสบียงปรับอากาศ อย่างละ 1 คัน รวม 7 คัน ตกรางโดยไม่ทราบสาเหตุนั้น ขณะนี้ได้นำรถช่วยอันตรายจากจังหวัดลำปาง และอุตรดิตถ์ไปดำเนินการกู้รถที่ตกรางอย่างเร่งด่วนแล้ว โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 23 ราย ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งได้นำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเด่นชัย และหลังจากแพทย์ได้ตรวจอาการแล้วบางส่วนได้รับอนุญาตให้ทยอยเดินทางกลับบ้านได้ โดยมีผู้บาดเจ็บ 4 รายแรกต้องถูกส่งตัวไปรับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลในตัวจังหวัดแพร่
ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อการให้บริการการเดินรถไฟสายเหนือกับขบวนรถสายหลักที่จำเป็นต้องใช้ตู้รถโดยสารมาหมุนเวียนให้บริการ ฉะนั้นการรถไฟฯ จึงจำเป็นต้องประกาศงดเดินขบวนรถในวันที่ 17 กรกฎาคม 2556 รวม 3 ขบวน
ประกอบด้วยขบวนรถเที่ยวขึ้นจากกรุงเทพฯ โดยเป็นขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 9 กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ออกต้นทาง 08.30 น. และขบวนรถเที่ยวล่องจากเชียงใหม่ ได้แก่ ขบวนรถเร็ว (รถไฟฟรี) ที่ 102 เชียงใหม่-กรุงเทพฯ ออกต้นทาง 05.45 น. และขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลราง ที่ 12 เชียงใหม่-กรุงเทพฯ ออกต้นทาง 08.45 น. และเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ใช้บริการ การรถไฟฯ ยังคงให้ขบวนรถเร็ว (รถไฟฟรี) ที่ 109 กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ออกต้นทาง 12.45 น. แต่จะเดินรถถึงสถานีเด่นชัยเท่านั้น
สำหรับผู้ที่มีตั๋วโดยสารกับขบวนรถที่ประกาศงดเดินรถสามารถนำตั๋วมาติดต่อขอคืนเงินได้เต็มราคา ผู้ที่จะเดินทางโดยสารรถไฟสายเหนือในช่วงนี้อาจจะได้รับผลกระทบเกี่ยวกับเวลาเดินรถล่าช้าบ้าง จึงขอให้ติดต่อสอบถามนายสถานีรถไฟใกล้เคียง หรือติดต่อที่โทรศัพท์สายด่วน 1690 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
