ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ และผู้นำอื่นๆ ของกลุ่ม 8 ชาติอุตสาหกรรมสำคัญของโลก (จี8) เดินทางถึงไอร์แลนด์เหนือเพื่อร่วมประชุมสุดยอดแล้วในวันจันทร์ (17) โดยคาดว่างานนี้รัสเซียจะถูกกดดันหนักให้ยกเลิกการสนับสนุนผู้นำซีเรีย นอกจากนั้น ยังมีประเด็นสำคัญรองๆ ลงมาคือ บทบาทของธนาคารกลางและนโยบายการเงินในการฟื้นเศรษฐกิจโลก รวมถึงการเปิดเจรจาอย่างเป็นทางการว่าด้วยเขตการค้าเสรีอียู-อเมริกา
ก่อนที่ซัมมิตจะเริ่มต้นไม่กี่ชั่วโมง นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษและเจ้าภาพการประชุม กล่าวว่า เป้าหมายสำคัญอันดับแรกของตนคือ ทำให้มั่นใจว่าการประชุมสันติภาพว่าด้วยความขัดแย้งในซีเรีย รวมทั้งการตั้งรัฐบาลชั่วคราวที่เป็นตัวแทนของประชาชน ไม่ใช่รัฐบาลที่เข่นฆ่าประชาชน จะเกิดขึ้นภายในปีนี้
นอกจากนี้ เป็นที่คาดหมายกันว่า การหารือระหว่างโอบามากับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ซึ่งนัดหมายกันในลักษณะของการประชุมข้างเคียงซัมมิตจี 8 คราวนี้ คงจะไม่ราบรื่นนัก เนื่องจากต่างฝ่ายให้การสนับสนุนทางการทหารแก่ฝ่ายตรงกันข้ามกันในวิกฤตซีเรีย
รัสเซียนั้นไม่เห็นด้วยกับข้อกล่าวหาของโลกตะวันตกที่ว่า กองทัพของรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ใช้อาวุธเคมี แต่มองว่า การสนับสนุนทางทหารของอเมริกาต่อกบฏซีเรียจะทำให้เหตุการณ์รุนแรงยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ วอชิงตันแถลงในวันศุกร์ (14) ว่ามีหลักฐานอันชัดเจนเรื่องระบอบปกครองอัสซาดใช้อาวุธเคมี และดังนั้นต่อจากนี้ไปสหรัฐฯจะให้ความช่วยเหลือทางการทหารแก่ฝ่ายค้านในซีเรียด้วย นอกจากนั้นในวันเสาร์ (15) สหรัฐฯยังแถลงว่า จะให้ฝูงครื่องบินขับไล่เอฟ-16 และระบบจรวดต่อต้านขีปนาวุธ “แพทริออต” ของตนประจำการอยู่ในจอร์แดนต่อไปตามคำขอของกรุงอัมมาน ซึ่งทำให้มอสโกไม่พอใจเนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่า ตะวันตกจะใช้ยุทโธปกรณ์ไฮเทคเหล่านี้เพื่อบังคับให้เกิด “เขตห้ามบิน” ขึ้นในซีเรีย
ภายหลังพบปะหารือกับคาเมรอนในกรุงลอนดอนเมื่อวันอาทิตย์ (16) ปูตินยังคงยืนยันว่า มอสโกสนับสนุนอาวุธแก่รัฐบาลอัสซาดแห่งซีเรีย โดยสอดคล้องกับหลักการกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมเรียกร้องให้ตะวันตกที่ติดอาวุธให้กลุ่มกบฏซีเรียต้องเคารพหลักการอย่างเดียวกัน
ก่อนที่ซัมมิตจะเริ่มต้นไม่กี่ชั่วโมง นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษและเจ้าภาพการประชุม กล่าวว่า เป้าหมายสำคัญอันดับแรกของตนคือ ทำให้มั่นใจว่าการประชุมสันติภาพว่าด้วยความขัดแย้งในซีเรีย รวมทั้งการตั้งรัฐบาลชั่วคราวที่เป็นตัวแทนของประชาชน ไม่ใช่รัฐบาลที่เข่นฆ่าประชาชน จะเกิดขึ้นภายในปีนี้
นอกจากนี้ เป็นที่คาดหมายกันว่า การหารือระหว่างโอบามากับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ซึ่งนัดหมายกันในลักษณะของการประชุมข้างเคียงซัมมิตจี 8 คราวนี้ คงจะไม่ราบรื่นนัก เนื่องจากต่างฝ่ายให้การสนับสนุนทางการทหารแก่ฝ่ายตรงกันข้ามกันในวิกฤตซีเรีย
รัสเซียนั้นไม่เห็นด้วยกับข้อกล่าวหาของโลกตะวันตกที่ว่า กองทัพของรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ใช้อาวุธเคมี แต่มองว่า การสนับสนุนทางทหารของอเมริกาต่อกบฏซีเรียจะทำให้เหตุการณ์รุนแรงยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ วอชิงตันแถลงในวันศุกร์ (14) ว่ามีหลักฐานอันชัดเจนเรื่องระบอบปกครองอัสซาดใช้อาวุธเคมี และดังนั้นต่อจากนี้ไปสหรัฐฯจะให้ความช่วยเหลือทางการทหารแก่ฝ่ายค้านในซีเรียด้วย นอกจากนั้นในวันเสาร์ (15) สหรัฐฯยังแถลงว่า จะให้ฝูงครื่องบินขับไล่เอฟ-16 และระบบจรวดต่อต้านขีปนาวุธ “แพทริออต” ของตนประจำการอยู่ในจอร์แดนต่อไปตามคำขอของกรุงอัมมาน ซึ่งทำให้มอสโกไม่พอใจเนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่า ตะวันตกจะใช้ยุทโธปกรณ์ไฮเทคเหล่านี้เพื่อบังคับให้เกิด “เขตห้ามบิน” ขึ้นในซีเรีย
ภายหลังพบปะหารือกับคาเมรอนในกรุงลอนดอนเมื่อวันอาทิตย์ (16) ปูตินยังคงยืนยันว่า มอสโกสนับสนุนอาวุธแก่รัฐบาลอัสซาดแห่งซีเรีย โดยสอดคล้องกับหลักการกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมเรียกร้องให้ตะวันตกที่ติดอาวุธให้กลุ่มกบฏซีเรียต้องเคารพหลักการอย่างเดียวกัน