นางบุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค ระบุว่า ที่ผ่านมา กสทช.ประกาศเองว่า จะรักษาสิทธิผู้บริโภคให้ผู้บริโภค และที่ผ่านมาเป็นฝ่ายออกประกาศห้ามกำหนดวันหมดอายุในระบบเติมเงิน แต่ตอนนี้จะมาเปลี่ยนแปลงมติให้กำหนดได้ โดยไม่มีการชี้แจงเหตุผลให้ผู้บริโภคเข้าใจแบบชัดเจนเกี่ยวกับความจำเป็นในการให้เอกชนกำหนดวันหมดอายุ พร้อมขอให้เปิดเวทีรับฟังความเห็นจากหลายฝ่าย ก่อนที่จะออกเป็นมติ พร้อมเห็นว่า การกำหนดมตินี้ เปรียบเสมือนการเอื้อผู้ประกอบ และเป็นผลเสียต่อผู้บริโภค เพราะเป็นเหตุผลที่ทำให้เครือข่ายทั้งเอไอเอส ดีแทค และทรู เรียกเก็บค่าบริหารจัดการเลขหมายเดือนละ 30 บาทจากผู้บริโภค ซี่งเห็นว่าแพงเกินไป จึงขอให้ทบทวนประเด็นนี้ด้วย
น.พ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กสทช.ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม ระบุว่า สำนักงาน กสทช.รับเรื่องไว้แล้ว แต่ต้องดูว่าจะเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ดกทค.พิจารณาเมื่อใด แต่ส่วนตัวเห็นว่า มีกฎหมายห้ามผู้ประกอบกิจการกำหนดวันหมดอายุในบัตรเติมเงินอยู่แล้ว แต่การพิจารณาให้ผู้ประกอบการอยู่รอดได้ด้วย โดยเหตุผลที่ทั้ง 3บริษัทระบุ คือ เป็นต้นทุนในการประกอบกิจการ ซึ่งเรื่องนี้อาจต้องทบทวนกันอีกครั้ง และอาจต้องทำประชาพิจารณ์ เพื่อรับฟังความเห็นผู้บริโภค เพราะที่ผ่านมาก็ยอมรับว่าไม่เคยฟังเสียงเรียกร้องของผู้บริโภค
น.พ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กสทช.ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม ระบุว่า สำนักงาน กสทช.รับเรื่องไว้แล้ว แต่ต้องดูว่าจะเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ดกทค.พิจารณาเมื่อใด แต่ส่วนตัวเห็นว่า มีกฎหมายห้ามผู้ประกอบกิจการกำหนดวันหมดอายุในบัตรเติมเงินอยู่แล้ว แต่การพิจารณาให้ผู้ประกอบการอยู่รอดได้ด้วย โดยเหตุผลที่ทั้ง 3บริษัทระบุ คือ เป็นต้นทุนในการประกอบกิจการ ซึ่งเรื่องนี้อาจต้องทบทวนกันอีกครั้ง และอาจต้องทำประชาพิจารณ์ เพื่อรับฟังความเห็นผู้บริโภค เพราะที่ผ่านมาก็ยอมรับว่าไม่เคยฟังเสียงเรียกร้องของผู้บริโภค