นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานลงนามสัญญาจ้างโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต สัญญา 2 ซึ่งเป็นงานโยธาสำหรับทางรถไฟบางซื่อ-รังสิต ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และบริษัท อิตาเลียน-ไทย ก่อสร้างสถานีพร้อมอาคารสถานี 6 สถานี ประกอบด้วย สถานีบางเขน ทุ่งสองห้อง หลักสี่ การเคหะฯ ดอนเมือง และรังสิต รวมถึงงานโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการขยายสถานีวัดเสมียนนารี และสถานีหลักหก ในอนาคต รวม 21 กิโลเมตร มูลค่าก่อสร้างสัญญา 2 กว่า 21,000 ล้านบาท โดยการก่อสร้างจะใช้โครงสร้างตอม่อโฮปเวลล์เดิมที่มีอยู่ประมาณร้อยละ 50 เป็นฐานราก และบางส่วนจะทุบทิ้ง โดยมีการจ้างบริษัทที่ปรึกษาสำรวจแล้ว
นอกจากนี้ ได้สั่งให้ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.เร่งขยายสถานีรถไฟเพิ่มเติม คือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และสถานีนวนคร ตามมติคณะรัฐมนตรี พร้อมๆ กับเร่งขยายสถานีในอนาคต คือวัดเสมียนนารี และสถานีหลักหก ไปพร้อมๆ กัน เพื่อลดต้นทุนการก่อสร้างต่อหน่วยลงได้ราว 10-20 เปอร์เซ็นต์ และยังให้ดูแลระบบเชื่อมโยงการเดินทางมายังสถานีรถไฟ ไม่ให้เกิดปัญหาการเข้า-ออกสถานีเหมือนแอร์พอร์ตลิงก์ พร้อมให้คำนึงถึงแผนการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ที่เดิมจะต้องใช้ระบบรางร่วมกัน และดูแลปัญหาการจราจรในพื้นที่ โดยเฉพาะถนนโลคัลโรด คาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างราว 3 ปี และเปิดให้บริการได้ภายในปี 2559 โดยตั้งเป้ามีผู้โดยสารเฉลี่ยชั่วโมงละ 30,000-40,000 คน
ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง ขณะนี้มีแนวคิดเปิดให้เอกชนในแต่ละจังหวัดตามเส้นทางรถไฟความเร็วสูง เข้าร่วมประมูลลงทุนก่อสร้างและพัฒนาสถานีรถไฟ โดยอาจดำเนินการเป็นโรงแรม หรือศูนย์การค้าภายในสถานี โดยแต่ละสถานีจะต้องมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เพื่อสร้างจุดขายและสร้างมูลค่าเพิ่ม ขณะที่ ร.ฟ.ท.จะดูแลเฉพาะการเดินรถ และกำกับอัตราค่าโดยสาร เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ใช้บริการ โดยแนวคิดนี้ได้รับความเห็นชอบเบื้องต้นจากนายกรัฐมนตรีแล้ว
นอกจากนี้ ได้สั่งให้ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.เร่งขยายสถานีรถไฟเพิ่มเติม คือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และสถานีนวนคร ตามมติคณะรัฐมนตรี พร้อมๆ กับเร่งขยายสถานีในอนาคต คือวัดเสมียนนารี และสถานีหลักหก ไปพร้อมๆ กัน เพื่อลดต้นทุนการก่อสร้างต่อหน่วยลงได้ราว 10-20 เปอร์เซ็นต์ และยังให้ดูแลระบบเชื่อมโยงการเดินทางมายังสถานีรถไฟ ไม่ให้เกิดปัญหาการเข้า-ออกสถานีเหมือนแอร์พอร์ตลิงก์ พร้อมให้คำนึงถึงแผนการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ที่เดิมจะต้องใช้ระบบรางร่วมกัน และดูแลปัญหาการจราจรในพื้นที่ โดยเฉพาะถนนโลคัลโรด คาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างราว 3 ปี และเปิดให้บริการได้ภายในปี 2559 โดยตั้งเป้ามีผู้โดยสารเฉลี่ยชั่วโมงละ 30,000-40,000 คน
ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง ขณะนี้มีแนวคิดเปิดให้เอกชนในแต่ละจังหวัดตามเส้นทางรถไฟความเร็วสูง เข้าร่วมประมูลลงทุนก่อสร้างและพัฒนาสถานีรถไฟ โดยอาจดำเนินการเป็นโรงแรม หรือศูนย์การค้าภายในสถานี โดยแต่ละสถานีจะต้องมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เพื่อสร้างจุดขายและสร้างมูลค่าเพิ่ม ขณะที่ ร.ฟ.ท.จะดูแลเฉพาะการเดินรถ และกำกับอัตราค่าโดยสาร เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ใช้บริการ โดยแนวคิดนี้ได้รับความเห็นชอบเบื้องต้นจากนายกรัฐมนตรีแล้ว
