เอชเอสบีซี ธนาคารยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ แถลงในวันอังคาร(11) ยืนยันรายงานข่าวที่ว่า ทางธนาคารเตรียมจ่ายเงินเป็นจำนวนสูงถึง 1,900 ล้านดอลลาร์ให้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เป็นการประนอมยอมความคดีที่ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์ฟอกเงิน นับเป็นการชำระเงินเพื่อให้หลุดจากข้อกล่าวหาเรื่องการฟอกเงินที่มีมูลค่าสูงสุดในขณะนี้
เอชเอสบีซี ซึ่งดั้งเดิมมีชื่อว่าธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ และเป็นแบงก์ยักษ์ใหญ่ยุโรปที่มีกิจการจำนวนมากในแถบเอเชีย แถลงว่า ได้ทำข้อตกลงยอมความระยะ 5 ปีกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ โดยธนาคารจะจ่ายเงิน 1,900 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งให้ความร่วมมือกับหน่วยงานกำกับตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯอย่างเต็มที่ ตลอดจนดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อส่งเสริมกระบวนการและนโยบายในการปฏิบัติตามกฎระเบียบ อีกทั้งจะตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อประเมินความคืบหน้าในการปรับปรุงแนวทางการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้วย
สจวร์ต กัลลิเวอร์ ประธานบริหารเอชเอสบีซี ยอมรับว่า ที่ผ่านมาธนาคารด้อยประสิทธิภาพในเรื่องการควบคุมการฟอกเงิน และแสดงความเสียใจต่อความผิดพลาดในอดีต พร้อมกับเผยว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทางแบงก์ใช้งบประมาณ 260 ล้านดอลลาร์ในการปรับปรุงระบบป้องกันการฟอกเงิน รวมทั้งเรียกคืนโบนัสบางส่วนที่จ่ายให้ผู้บริหารอาวุโส
เอชเอสบีซีระบุด้วยว่า หวังที่จะบรรลุข้อตกลงกับสำนักงานบริการการเงินสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นผู้กำกับตรวจสอบระบบธนาคารของอังกฤษในเร็ววันนี้
นอกจากนั้น ธนาคารใหญ่ที่สุดในยุโรปเมื่อวัดจากทุนจดทะเบียนแห่งนี้ ยังประกาศว่า ได้แต่งตั้งบ็อบ เวอร์เนอร์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมสินทรัพย์ต่างประเทศในสังกัดกระทรวงคลังสหรัฐฯ ที่รับผิดชอบการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรกับประเทศต่างๆ มาเป็นประธานแผนกอาชญากรรมทางการเงินของเอชเอสบีซี ซึ่งเป็นตำแหน่งใหม่ มีหน้าที่ปรับปรุงระบบต่อต้านการฟอกเงินและปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตร
เอชเอสบีซี ซึ่งดั้งเดิมมีชื่อว่าธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ และเป็นแบงก์ยักษ์ใหญ่ยุโรปที่มีกิจการจำนวนมากในแถบเอเชีย แถลงว่า ได้ทำข้อตกลงยอมความระยะ 5 ปีกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ โดยธนาคารจะจ่ายเงิน 1,900 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งให้ความร่วมมือกับหน่วยงานกำกับตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯอย่างเต็มที่ ตลอดจนดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อส่งเสริมกระบวนการและนโยบายในการปฏิบัติตามกฎระเบียบ อีกทั้งจะตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อประเมินความคืบหน้าในการปรับปรุงแนวทางการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้วย
สจวร์ต กัลลิเวอร์ ประธานบริหารเอชเอสบีซี ยอมรับว่า ที่ผ่านมาธนาคารด้อยประสิทธิภาพในเรื่องการควบคุมการฟอกเงิน และแสดงความเสียใจต่อความผิดพลาดในอดีต พร้อมกับเผยว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทางแบงก์ใช้งบประมาณ 260 ล้านดอลลาร์ในการปรับปรุงระบบป้องกันการฟอกเงิน รวมทั้งเรียกคืนโบนัสบางส่วนที่จ่ายให้ผู้บริหารอาวุโส
เอชเอสบีซีระบุด้วยว่า หวังที่จะบรรลุข้อตกลงกับสำนักงานบริการการเงินสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นผู้กำกับตรวจสอบระบบธนาคารของอังกฤษในเร็ววันนี้
นอกจากนั้น ธนาคารใหญ่ที่สุดในยุโรปเมื่อวัดจากทุนจดทะเบียนแห่งนี้ ยังประกาศว่า ได้แต่งตั้งบ็อบ เวอร์เนอร์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมสินทรัพย์ต่างประเทศในสังกัดกระทรวงคลังสหรัฐฯ ที่รับผิดชอบการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรกับประเทศต่างๆ มาเป็นประธานแผนกอาชญากรรมทางการเงินของเอชเอสบีซี ซึ่งเป็นตำแหน่งใหม่ มีหน้าที่ปรับปรุงระบบต่อต้านการฟอกเงินและปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตร