นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการผลักดันราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ตามนโยบายรัฐบาลว่า รฟม.ได้เริ่มทำงานและเจรจากับคู่สัญญาเดินรถ คือ บริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีเอ็มซีแอลบ้างแล้ว ตามแผนงานการเก็บค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย น่าจะสามารถนำมาใช้ได้ภายใน 2 ปีข้างหน้าหรือปี 2557 ระหว่างนี้ รฟม.จะเดินหน้าเจรจาเพื่อให้บรรลุผลทั้งกับบีเอ็มซีแอล และบีทีเอส
ส่วนสาเหตุสำคัญที่ต้องรออีก 2 ปีข้างหน้า จึงจะเก็บค่าโดยสารอัตราดังกล่าว นายยงสิทธิ์ กล่าวว่า เนื่องจากหากมีการเก็บค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย เชื่อว่าจะทำให้ปริมาณผู้ใช้รถไฟฟ้าสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงเวลาดังกล่าวต้องมีปริมาณรถเพียงพอต่อความต้องการของผู้โดยสาร ปัจจุบันบีเอ็มซีแอล มีรถไฟฟ้าใช้หมุนเวียนในระบบ 19 คัน โดยเชื่อว่าต้องเพิ่มอย่างน้อย 1 เท่าตัว เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งานในช่วงเวลาดังกล่าว
นายยงสิทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนของ รฟม.ยืนยันว่า หลังจากนี้จะเร่งพัฒนาขยายโครงข่ายรถไฟฟ้าต่อเนื่อง ซึ่งตามแผนงาน รฟม. มีโครงการรับผิดชอบทั้งส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน และรถไฟฟ้าสีม่วง ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง
นอกจากนี้ ยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายไปบางคูวัด สายสีส้มบางกะปิ-บางบำหรุ สายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง และสายสีชมพู มีนบุรี-ติวานนท์ ซึ่งทั้งหมดจะใช้งบประมาณในการลงทุนประมาณ 500,000 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการรวม 6-7 ปี ประเทศไทยจะมีโครงข่ายรถไฟฟ้าใช้มากกว่า 200 กิโลเมตร เช่นเดียวกับเมืองใหญ่ๆ ที่มีการนำระบบรถไฟฟ้ามาเป็นขนส่งมวลชนหลัก ส่วนบทบาทในอนาคตนั้น รฟม.ควรจะเป็นผู้บริหารการเดินรถเอง เนื่องจากจะสามารถเป็นองค์กรจัดหารายได้ด้วยตนเองและนำรายได้มาขยายการลงทุน โดยไม่ต้องพึ่งงบประมาณภาครัฐอย่างเดียว
นายยงสิทธิ์ กล่าวถึงความล่าช้าในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีน้ำเงิน เนื่องจากปัญหาอุทกภัยในช่วงที่ผ่านมานั้นว่า รัฐบาลเตรียมเยียวยาโดยเฉพาะการขยายกรอบระยะเวลาก่อสร้างตามสัญญาให้เอกชนที่รับงานก่อสร้าง แต่ต้องหยุดงานก่อสร้างช่วงน้ำท่วมโดยการขยายกรอบและระยะเวลานี้จะไม่เกิน 180 วัน ซึ่งต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
ส่วนสาเหตุสำคัญที่ต้องรออีก 2 ปีข้างหน้า จึงจะเก็บค่าโดยสารอัตราดังกล่าว นายยงสิทธิ์ กล่าวว่า เนื่องจากหากมีการเก็บค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย เชื่อว่าจะทำให้ปริมาณผู้ใช้รถไฟฟ้าสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงเวลาดังกล่าวต้องมีปริมาณรถเพียงพอต่อความต้องการของผู้โดยสาร ปัจจุบันบีเอ็มซีแอล มีรถไฟฟ้าใช้หมุนเวียนในระบบ 19 คัน โดยเชื่อว่าต้องเพิ่มอย่างน้อย 1 เท่าตัว เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งานในช่วงเวลาดังกล่าว
นายยงสิทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนของ รฟม.ยืนยันว่า หลังจากนี้จะเร่งพัฒนาขยายโครงข่ายรถไฟฟ้าต่อเนื่อง ซึ่งตามแผนงาน รฟม. มีโครงการรับผิดชอบทั้งส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน และรถไฟฟ้าสีม่วง ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง
นอกจากนี้ ยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายไปบางคูวัด สายสีส้มบางกะปิ-บางบำหรุ สายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง และสายสีชมพู มีนบุรี-ติวานนท์ ซึ่งทั้งหมดจะใช้งบประมาณในการลงทุนประมาณ 500,000 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการรวม 6-7 ปี ประเทศไทยจะมีโครงข่ายรถไฟฟ้าใช้มากกว่า 200 กิโลเมตร เช่นเดียวกับเมืองใหญ่ๆ ที่มีการนำระบบรถไฟฟ้ามาเป็นขนส่งมวลชนหลัก ส่วนบทบาทในอนาคตนั้น รฟม.ควรจะเป็นผู้บริหารการเดินรถเอง เนื่องจากจะสามารถเป็นองค์กรจัดหารายได้ด้วยตนเองและนำรายได้มาขยายการลงทุน โดยไม่ต้องพึ่งงบประมาณภาครัฐอย่างเดียว
นายยงสิทธิ์ กล่าวถึงความล่าช้าในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีน้ำเงิน เนื่องจากปัญหาอุทกภัยในช่วงที่ผ่านมานั้นว่า รัฐบาลเตรียมเยียวยาโดยเฉพาะการขยายกรอบระยะเวลาก่อสร้างตามสัญญาให้เอกชนที่รับงานก่อสร้าง แต่ต้องหยุดงานก่อสร้างช่วงน้ำท่วมโดยการขยายกรอบและระยะเวลานี้จะไม่เกิน 180 วัน ซึ่งต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง