หลายประเทศในอาเซียนกำลังแข่งขันการพัฒนาผลิตอาหารและสินค้าเกษตรแปรรูป เพื่อส่งออกตลาดโลก นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ระบุว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมอาหารของไทยมีศักยภาพการผลิตในอันดับ 8 ของโลก และใหญ่ที่สุดในอาเซียน แต่ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลก ภัยธรรมชาติ รวมถึงแนวโน้มการแข่งขันของประเทศสมาชิกที่สูงขึ้น ผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัวใน 3 ด้าน ได้แก่ ยกระดับความปลอดภัยด้านอาหาร ส่งเสริมการผลิตภายในประเทศแบบยั่งยืน และส่งออกอาหารให้ตลาดโลกในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง และต้องไม่กระทบสิ่งแวดล้อม รวมถึงใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า
นายพรศิลป์ ยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมอาหารไทยมีศักยภาพการผลิต ร้อยละ 70 ดังนั้นอนาคตภาครัฐต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับการผลิตให้ได้เต็มกำลัง และควรร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อกำหนดมาตรฐานอาหารเดียวกัน
ด้านนายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นห่วงธุรกิจส่งออกข้าวของไทย เนื่องจากมีคู่แข่งมากขึ้น ได้แก่ กัมพูชา และพม่า จากเดิมมีเพียงเวียดนาม
นอกจากนี้ นโยบายเพิ่มกำลังการผลิตข้าวของประเทศนำเข้ารายใหญ่ คือ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย หลังปี 2558 หรือหลังการร่วมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จะยิ่งทำให้อุตสาหกรรมส่งออกข้าวไทยได้รับผลกระทบ รวมถึงจะมีการใช้มาตรการกีดกันการค้าที่ไม่ใช่ภาษีสูงขึ้นด้วย
นายพรศิลป์ ยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมอาหารไทยมีศักยภาพการผลิต ร้อยละ 70 ดังนั้นอนาคตภาครัฐต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับการผลิตให้ได้เต็มกำลัง และควรร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อกำหนดมาตรฐานอาหารเดียวกัน
ด้านนายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นห่วงธุรกิจส่งออกข้าวของไทย เนื่องจากมีคู่แข่งมากขึ้น ได้แก่ กัมพูชา และพม่า จากเดิมมีเพียงเวียดนาม
นอกจากนี้ นโยบายเพิ่มกำลังการผลิตข้าวของประเทศนำเข้ารายใหญ่ คือ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย หลังปี 2558 หรือหลังการร่วมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จะยิ่งทำให้อุตสาหกรรมส่งออกข้าวไทยได้รับผลกระทบ รวมถึงจะมีการใช้มาตรการกีดกันการค้าที่ไม่ใช่ภาษีสูงขึ้นด้วย
