เว็บไซต์ www.yomiuri.co.jp หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น เผยแพร่บทสัมภาษณ์ ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งเดินทางถึงญี่ปุ่นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พร้อมให้สัมภาษณ์พิเศษ ระบุว่า ความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในประเทศพม่า มีความสำคัญ ซึ่งการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายถือเป็นกลยุทธ์สำคัญของทั้งไทยและญี่ปุ่น ซึ่งหากมีการวางท่อเชื่อมต่อกับทวาย บริเวณท่าเรืออุตสาหกรรมในภาคกลางของประเทศไทย จะทำให้ค่าใช้จ่ายในการขนส่งของก๊าซธรรมชาติ และน้ำมันดิบตะวันออกกลาง อาจจะลดลงอย่างมาก
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังหวังว่าในระหว่างการเยือนญี่ปุ่น 9 วันนี้ จะเสริมสร้างความสัมพันธ์กับภาคการเมืองและธุรกิจของประเทศได้ นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มที่จะพัฒนาภาคการเกษตรในประเทศไทย และการส่งเสริมเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของไทย และผ่านการลงทุนของญี่ปุ่น
นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวว่า จะสามารถกลับประเทศไทยได้ ต้องรอจนกว่าการตรวจสอบที่ชัดเจนเกิดขึ้น ซึ่งหมายถึงจะรอและดูการพิจารณาของรัฐสภา ในกรณีร่างพระราชบัญญัติปรองดองแห่งชาติ ที่จะกำหนดให้นิรโทษกรรมแก่บุคคล หรือกิจกรรมทั้งหมด รวมทั้งตนเอง ที่มีส่วนร่วมในความรุนแรงทางการเมือง และการกระทำผิดกฎหมาย จากสิ้นปี ค.ศ. 2005 ถึงกลางปี ค.ศ. 2010
ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุด้วยว่า หากได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ก็ยังจะทำให้สิ่งที่เคยทำเหมือนเดิม ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดีนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เป็นแค่กลุ่มคนที่หวาดระแวงความนิยมที่แข็งแกร่งในตัวตนเองเท่านั้น
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังหวังว่าในระหว่างการเยือนญี่ปุ่น 9 วันนี้ จะเสริมสร้างความสัมพันธ์กับภาคการเมืองและธุรกิจของประเทศได้ นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มที่จะพัฒนาภาคการเกษตรในประเทศไทย และการส่งเสริมเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของไทย และผ่านการลงทุนของญี่ปุ่น
นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวว่า จะสามารถกลับประเทศไทยได้ ต้องรอจนกว่าการตรวจสอบที่ชัดเจนเกิดขึ้น ซึ่งหมายถึงจะรอและดูการพิจารณาของรัฐสภา ในกรณีร่างพระราชบัญญัติปรองดองแห่งชาติ ที่จะกำหนดให้นิรโทษกรรมแก่บุคคล หรือกิจกรรมทั้งหมด รวมทั้งตนเอง ที่มีส่วนร่วมในความรุนแรงทางการเมือง และการกระทำผิดกฎหมาย จากสิ้นปี ค.ศ. 2005 ถึงกลางปี ค.ศ. 2010
ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุด้วยว่า หากได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ก็ยังจะทำให้สิ่งที่เคยทำเหมือนเดิม ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดีนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เป็นแค่กลุ่มคนที่หวาดระแวงความนิยมที่แข็งแกร่งในตัวตนเองเท่านั้น