คณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฏร ได้ตั้งคำถามกับนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ นายอมร กิจเชวงกุล กรรมการผู้อำนวยการบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด หรือ เคที ถึงความเร่งรีบในการต่อสัญญาว่าจ้างเดินรถไฟ้ฟ้าบีทีเอสไปอีก 13 ปี ทั้งที่เหลืออายุสัมปทาน 17 ปี และ เป็นอำนาจของกรุงเทพมหานคร หรือ กระทรวงมหาดไทย
ซึ่งนายธีระชน ชี้แจงว่า สัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าบีทีเอส เกิดก่อนที่กฎหมายร่วมทุนจะบังคับใช้ กรุงเทพมหานครจึงเลือกใช้กฎหมายระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานครปี 2528 มาตรา 89 ( 8 ) ที่ให้กรุงเทพมหานครสามารถจ้างบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด ด้วยวิธิพิเศษได้ พร้อมกับยืนยันว่า กรุงเทพมหานครไม่ได้ต่ออายุสัญญาสัมปทาน แต่เป็นการว่าจ้างการเดินรถไฟฟ้าเท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องแจ้งต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รองประธานกรรมาธิการ ได้ซักถามถึงการแจ้งเดินรถครั้งนี้ว่า อาจมีการทำนิติกรรมอำพลาง เป็นการคิดแทนผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในอนาคตถึง 6 คน รวมทั้งต้องอธิบายให้ได้ว่า คนกรุงเทพมหานครจะได้ประโยชน์
ซึ่งนายธีระชน กล่าวชี้แจงว่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครสมัยหน้า สามารถกำหนดอัตราค่าโดยสารเองได้ เพราะได้ออกข้อบัญญัติกำหนดค่าโดยสารรองรับไว้แล้ว ซึ่งการจ้างเดินรถระยะยาวช่วยประหยัดงบประมาณกว่า 6,000 ล้านบาท
กรรมาธิการ ป.ป.ช.ยังขอให้กรุงเทพมหานคร นำข้อมูลตัวเลขที่ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ ที่ช่วยประหยัดงบประมาณกว่า 6,000 ล้านบาท มาชี้แจงเพิ่มเติม และเตรียมเชิญสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาให้ข้อมูล
ซึ่งนายธีระชน ชี้แจงว่า สัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าบีทีเอส เกิดก่อนที่กฎหมายร่วมทุนจะบังคับใช้ กรุงเทพมหานครจึงเลือกใช้กฎหมายระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานครปี 2528 มาตรา 89 ( 8 ) ที่ให้กรุงเทพมหานครสามารถจ้างบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด ด้วยวิธิพิเศษได้ พร้อมกับยืนยันว่า กรุงเทพมหานครไม่ได้ต่ออายุสัญญาสัมปทาน แต่เป็นการว่าจ้างการเดินรถไฟฟ้าเท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องแจ้งต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รองประธานกรรมาธิการ ได้ซักถามถึงการแจ้งเดินรถครั้งนี้ว่า อาจมีการทำนิติกรรมอำพลาง เป็นการคิดแทนผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในอนาคตถึง 6 คน รวมทั้งต้องอธิบายให้ได้ว่า คนกรุงเทพมหานครจะได้ประโยชน์
ซึ่งนายธีระชน กล่าวชี้แจงว่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครสมัยหน้า สามารถกำหนดอัตราค่าโดยสารเองได้ เพราะได้ออกข้อบัญญัติกำหนดค่าโดยสารรองรับไว้แล้ว ซึ่งการจ้างเดินรถระยะยาวช่วยประหยัดงบประมาณกว่า 6,000 ล้านบาท
กรรมาธิการ ป.ป.ช.ยังขอให้กรุงเทพมหานคร นำข้อมูลตัวเลขที่ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ ที่ช่วยประหยัดงบประมาณกว่า 6,000 ล้านบาท มาชี้แจงเพิ่มเติม และเตรียมเชิญสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาให้ข้อมูล
