นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังหารือร่วมกับผู้แทนของธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) และธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ว่า กระทรวงการคลังสนใจในผลการศึกษาของธนาคารโลกเกี่ยวกับการปฏิรูประบบภาษีของประเทศ เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณากำหนดระบบภาษีที่ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ขณะเดียวกันได้ขอให้ธนาคารโลกศึกษาแนวทางการจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่ง ที่กระทรวงการคลังเคยเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน มีข้อดี ข้อเสีย หรือสิ่งใดที่ต้องระมัดระวังบ้าง
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้แจ้งผู้แทนธนาคารโลกด้วยว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นในองค์กร โดยจะจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหามาตรการกำกับดูแล เพื่อป้องกันผู้จ่ายสินบนทั้งบริษัทในและนอกตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งจะมีการหารือถึงแนวทางการปฏิรูประบบภาษีและสถาบันการเงินเฉพาะกิจอีกครั้งในสองสัปดาห์
นอกจากนี้ ไทยจะเข้าไปร่วมลงทุนในกองทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Infrastructure Fund -AIF) ที่ธนาคารพัฒนาเอเชีย จัดตั้งขึ้น โดยจะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาในวันอังคารที่ 6 กันยายนนี้ เพื่อขออนุมัติดำเนินการเข้าร่วมลงทุนในวงเงิน 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่แม้จะเสนอครม.เพื่อพิจารณาแล้ว แต่คงจะร่วมเซ็นสัญญาไม่ทันในการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ (G20) ที่จะจัดขึ้นในเดือนกันยายนนี้ที่กรุงวอชิงตัน ดี ซี ประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากกระบวนการดังกล่าวต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญก่อน อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อเดินหน้าความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้แจ้งผู้แทนธนาคารโลกด้วยว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นในองค์กร โดยจะจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหามาตรการกำกับดูแล เพื่อป้องกันผู้จ่ายสินบนทั้งบริษัทในและนอกตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งจะมีการหารือถึงแนวทางการปฏิรูประบบภาษีและสถาบันการเงินเฉพาะกิจอีกครั้งในสองสัปดาห์
นอกจากนี้ ไทยจะเข้าไปร่วมลงทุนในกองทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Infrastructure Fund -AIF) ที่ธนาคารพัฒนาเอเชีย จัดตั้งขึ้น โดยจะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาในวันอังคารที่ 6 กันยายนนี้ เพื่อขออนุมัติดำเนินการเข้าร่วมลงทุนในวงเงิน 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่แม้จะเสนอครม.เพื่อพิจารณาแล้ว แต่คงจะร่วมเซ็นสัญญาไม่ทันในการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ (G20) ที่จะจัดขึ้นในเดือนกันยายนนี้ที่กรุงวอชิงตัน ดี ซี ประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากกระบวนการดังกล่าวต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญก่อน อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อเดินหน้าความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นต่อไป
