xs
xsm
sm
md
lg

“ณรงค์ชัย” มั่นใจ ศก.ไทยแกร่ง-ไม่ซ้ำรอยสหรัฐฯ เพราะมีบทเรียนต้มยำกุ้งปี 40

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ณรงค์ชัย อัครเศรณี
อดีต รมว.พาณิชย์ มั่นใจ ศก.ไทยยังแข็งแกร่ง และไม่เกิดปัญหาซ้ำรอยสหรัฐฯ พร้อมเชื่อ วิกฤตในรอบนี้ จะไม่เกิดในไทย เพราะมีบทเรียนปี 40 มาแล้ว แนะจับตาสหรัฐฯ เข็นมาตรการ QE3 แน่ เพราะเป็นทางออกเดียว-ป้องกันตราสารด้อยค่า

นายณรงค์ชัย อัครเศรณี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตลาดทุนและตลาดเงินเอเชีย เคลื่อนไหวผันผวนในระยะนี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา โดยเชื่อว่า สหรัฐฯ คงจะแก้ปัญหาด้วยการเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน ด้วยมาตรการเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน (QE) รอบที่ 3 เพราะเป็นมาตรการเดียวที่จะป้องกันไม่ให้ตราสารทางการเงินของสหรัฐฯ ด้อยค่าลงในระยะสั้น

ขณะที่รัฐบาลใหม่ ต้องมีมาตรการป้องกันผลกระทบ (Fire Wall) จากปัญหาเศรษฐกิจโลก แม้จะมั่นใจว่า ปัญหาหนี้สาธารณะที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ และยุโรป จะไม่เกิดขึ้นกับประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยเคยมีประสบการณ์ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 มาแล้ว และปัจจุบันหนี้สาธารณะของไทยอยู่ในระดับต่ำร้อยละ 46 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประกอบกับกฎหมายของไทยมีความเข้มงวดมากในเรื่องการสร้างหนี้

ขณะเดียวกัน ฐานะการเงินของประเทศมีความแข็งแกร่ง เงินทุนสำรองระหว่างประเทศสูง ระบบธนาคารพาณิชย์มีความแข็งแกร่ง และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในระดับต่ำ และมั่นใจว่าทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีมาตรการดูแลอยู่แล้ว

ส่วนข้อกังวลเรื่องการใช้งบประมาณของรัฐบาลใหม่ในการดำเนินโครงการต่างๆ นั้น นายณรงค์ชัย กล่าวว่า ไม่น่าวิตก เพราะรัฐบาลคงทำได้ไม่มาก เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณที่มีน้อย ดังนั้น ไม่ต้องกังวลว่าจะมีการอัดฉีดงบประมาณเป็นจำนวนมาก แต่หากรัฐบาลจะลงทุนในโครงการต่างๆ ก็ควรร่วมลงทุนกับภาคเอกขน เพราะมีสภาพคล่องในระบบสูง

ด้าน ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เปิดตัวรายงานการติดตามภาวะตลาดทุนเอเชีย ระบุว่า ตลาดทุนในประเทศเกิดใหม่ในเอเชียยังคงมีความอ่อนไหว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้สหรัฐฯ และในยุโรป ทำให้ตลาดการเงินโลกมีความผันผวน และทำให้นักลงทุนเกิดความกังวล แต่เชื่อว่า พื้นฐานทางเศรษฐกิจเอเชียที่แข็งแกร่ง ผลกำไรจากบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ขยายตัวต่อเนื่อง และอัตราแลกเปลี่ยนที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าสหรัฐฯ และยุโรป จะทำให้มีเงินทุนไหลเข้ามาในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินนโยบายการเงินภายในประเทศ ระบบการเงินของประเทศขาดเสถียรภาพ และฉุดการเติบโตทางเศรษฐกิจ จากที่มีการประเมินว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 7.7 และขยายตัวร้อยละ 7.6 ในปีหน้า พร้อมเตือนว่า เศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียยังต้องเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ทำให้ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อรับมือปัญหานี้
กำลังโหลดความคิดเห็น