ที่กระทรวงการต่างประเทศ เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 26 ก.ค. นายเจษฎา กตเวทิน รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรักษาการโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่สถานทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลไทยต้องจ่ายค่าชดเชยแก่บริษัท วอลเตอร์ บาว เป็นเงิน 36 ล้านยูโร (ประมาณ 1,558 ล้านบาทไทย) โดยอ้างว่าคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2552 เป็นที่สิ้นสุดแล้วว่า เรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามกรอบกฎหมาย และเรายังไม่ได้ยินจากฝ่ายใดระบุว่าการที่รัฐบาลไทยยังไม่จ่ายเงินค่าชดเชยให้บริษัทนี้ เป็นการทำผิดกฎหมาย หรือผิดความตกลงที่มีต่อกัน และยังไม่มีการระบุว่ารัฐบาลไทยไม่มีสิทธิ์ต่อสู้ทางกฎหมายแล้ว ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่เราต้องพิจารณาให้ดี
นายเจษฎากล่าวว่า การต่อสู้คดีดังกล่าวเป็นเรื่องของอัยการสูงสุด (อสส.)ที่สามารถให้ข้อมูลได้ โดยเฉพาะประเด็นที่ว่าแม้อนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศตัดสินแล้วว่าให้จ่ายเงินชดเชย แต่ขั้นตอนต่อไปไม่ว่าจะเป็นการยื่นร้องต่อศาลเพื่อให้มีการบังคับคดี ที่ยังให้เราใช้สิทธิ์ต่อสู้ได้นั้น ที่จริงแล้วเป็นอย่างไร ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งหารือกับ อสส.ในเรื่องนี้ และดูว่าการที่ความเข้าใจของเยอรมนีคลาดเคลื่อนนั้นเป็นความคลาดเคลื่อนในสาระสำคัญหรือเป็นเพราะเขาให้ภาพไม่ครบ หรืออย่างไร ซึ่งเมื่อการหารือระหว่างกระทรวงฯกับ อสส.ได้ข้อสรุปแล้วก็อาจจะมีการทำหนังสือชี้แจงตอบโต้ทางการเยอรมนีเพื่อให้ข้อมูลต่างๆที่ถูกต้อง โดยเฉพาะเรื่องข้อกฎหมายในเรื่องนี้
นายเจษฎากล่าวว่า การต่อสู้คดีดังกล่าวเป็นเรื่องของอัยการสูงสุด (อสส.)ที่สามารถให้ข้อมูลได้ โดยเฉพาะประเด็นที่ว่าแม้อนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศตัดสินแล้วว่าให้จ่ายเงินชดเชย แต่ขั้นตอนต่อไปไม่ว่าจะเป็นการยื่นร้องต่อศาลเพื่อให้มีการบังคับคดี ที่ยังให้เราใช้สิทธิ์ต่อสู้ได้นั้น ที่จริงแล้วเป็นอย่างไร ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งหารือกับ อสส.ในเรื่องนี้ และดูว่าการที่ความเข้าใจของเยอรมนีคลาดเคลื่อนนั้นเป็นความคลาดเคลื่อนในสาระสำคัญหรือเป็นเพราะเขาให้ภาพไม่ครบ หรืออย่างไร ซึ่งเมื่อการหารือระหว่างกระทรวงฯกับ อสส.ได้ข้อสรุปแล้วก็อาจจะมีการทำหนังสือชี้แจงตอบโต้ทางการเยอรมนีเพื่อให้ข้อมูลต่างๆที่ถูกต้อง โดยเฉพาะเรื่องข้อกฎหมายในเรื่องนี้