สถานทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์ยันคำตัดสินอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ สั่งให้ไทยจ่ายค่าชดเชยจำนวน 36 ล้านยูโร ถือเป็นที่สิ้นสุด ไทยควรชำระหนี้ อ้างเพื่อสัมพันธ์ที่ดีของทั้งสองประเทศ และสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนเยอรมัน และจากประเทศอื่นๆ ทั้งนี้ การสืบพยานของศาลเยอรมนีจะมีขึ้นอีกครั้งประมาณสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ส.ค.โดยยังคาดการณ์ไม่ได้ว่ากระบวนการพิจารณาจะสิ้นสุดเมื่อใด
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา สถานทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ยืนยันคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ที่สั่งให้ประเทศไทยจ่ายค่าชดเชยจำนวน 36 ล้านยูโร และแสดงความคาดหวังให้ประเทศไทยชำระเงินดังกล่าวเพื่อเป็นการช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนเยอรมัน และจากประเทศอื่นๆ ในประเทศไทยอีกครั้ง และจะส่งสัญญาณทางบวกสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างเยอรมนี-ไทยต่อไปด้วย
นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ยังชี้แจงเพิ่มเติมว่า กระบวนการตัดสินของอนุญาโตตุลาการที่นิวยอร์กเป็นไปเพื่อร้องขอคำตัดสินว่า การบังคับคดีในเรื่องนี้สามารถกระทำในสหรัฐอเมริกาได้หรือไม่เท่านั้น ซึ่งจะไม่มีการสืบพยานใดเพิ่มเติมอีกที่จะทำให้ประเทศไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามคำตัดสินได้ ทั้งนี้ โบอิ้ง 737 ถูกอายัดหลังจากคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศได้ตัดสินเมื่อกลางปี 2552 ว่า รัฐบาลไทยต้องจ่ายค่าเสียหายชดเชยให้แก่บริษัท วอลเตอร์ บาว ซึ่งคำตัดสินถือเป็นสิ้นสุด
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลเมืองลานด์ชูต ใกล้เมืองมิวนิก ได้มีคำตัดสินให้ถอนอายัดเครื่องบินโบอิ้ง 737 โดยมีเงื่อนไขคือ ทางการไทยต้องวางหลักทรัพย์ค้ำประกันธนาคารมูลค่า 20 ล้านยูโร แต่รัฐบาลไทยได้ประกาศว่าจะไม่นำเงินประกันไปแลกกับการนำเครื่องบินออกมาจากสภาพการถูกอายัด การสืบพยานที่ศาลประจำรัฐเมืองลานด์ชูตจะมีขึ้นอีกครั้งประมาณสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนสิงหาคม และยังคาดการณ์ไม่ได้ว่ากระบวนการพิจารณาทั้งหลายจะสิ้นสุดเมื่อใด