นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยถึงกรณีพืชผักที่ปลูกในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป หรือ อียู ที่เป็นต้นเหตุของการระบาดของเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ส่งผลให้หลายประเทศห้ามนำผักผลไม้จากอียู ว่า กรณีที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับคุณภาพและความปลอดภัยในอาหารนั้นเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ผลิต ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกต้องใส่ใจ เตรียมความพร้อมเพื่อไม่ให้เสียเปรียบในการส่งสินค้าเข้าไปจำหน่ายในประเทศพัฒนาแล้ว ที่มักมีเครื่องมือกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี
นายอดิศัย ธรรมคุปต์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สคร.) ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้รายงานผลกระทบที่อาจมีกับไทยว่า ในปี 2553 ไทยนำพืชผักจากอังกฤษมีมูลค่า 56.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นสินค้า 6 ประเภท คือ ธัญพืชและแป้ง เมล็ดพืชน้ำมันและน้ำมันพืช ผลิตภัณฑ์ยาง โกโก้ พืชที่มีกลิ่นหอมและพืชผักอื่น ซึ่งจากการระบาดของโรคจากเชื้ออีโคไลในภูมิภาคยุโรปจะมีผลต่อภาคอุตสาหกรรมผู้บริโภคและผู้ผลิต โดยไทยนำเข้าสินค้าพืชผักสด ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เป็นสินค้าวัตถุดิบ หรือสำหรับอุตสาหกรรม ในส่วนของสินค้าที่มีการนำเข้าเพื่อการบริโภคจะอยู่ในรายการผักอื่นๆ ในกลุ่มตลาดพืชผักพิเศษที่นำเข้าจากภูมิภาคยุโรป และอาจมีการปนเปื้อนของเชื้อดังกล่าวได้
นายอดิศัย ธรรมคุปต์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สคร.) ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้รายงานผลกระทบที่อาจมีกับไทยว่า ในปี 2553 ไทยนำพืชผักจากอังกฤษมีมูลค่า 56.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นสินค้า 6 ประเภท คือ ธัญพืชและแป้ง เมล็ดพืชน้ำมันและน้ำมันพืช ผลิตภัณฑ์ยาง โกโก้ พืชที่มีกลิ่นหอมและพืชผักอื่น ซึ่งจากการระบาดของโรคจากเชื้ออีโคไลในภูมิภาคยุโรปจะมีผลต่อภาคอุตสาหกรรมผู้บริโภคและผู้ผลิต โดยไทยนำเข้าสินค้าพืชผักสด ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เป็นสินค้าวัตถุดิบ หรือสำหรับอุตสาหกรรม ในส่วนของสินค้าที่มีการนำเข้าเพื่อการบริโภคจะอยู่ในรายการผักอื่นๆ ในกลุ่มตลาดพืชผักพิเศษที่นำเข้าจากภูมิภาคยุโรป และอาจมีการปนเปื้อนของเชื้อดังกล่าวได้
