นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำที่จัดสรรในช่วงหน้าแล้ง 31,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ใช้ไปแล้วร้อยละ 65 เหลือน้ำใช้ประมาณ 7,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่ช่วงฤดูแล้งเหลืออีก 2 เดือน กรมชลประทานยังต้องคุมเข้มพื้นที่เพาะปลูก รวมทั้งขอความร่วมมือให้เกษตรกรในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาปลูกข้าวนาปรังรอบเดียว
ส่วนที่จังหวัดประสบภัยแล้งรุนแรงขณะนี้ ได้แก่ เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ เหลือปริมาณน้ำใช้ในอ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน และปราณบุรี เพียงร้อยละ 22 และ 13 ตามลำดับ เนื่องจากในพื้นที่ ปริมาณฝนตกทั้งปีต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ย ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค
นับเป็นปีแรกที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เกิดภาวะขาดแคลนน้ำอย่างมาก โดยปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำคลองบึง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำต้นทุนในการผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคในพื้นที่เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ และบริเวณใกล้เคียง ขณะนี้เหลือปริมาณน้ำใช้การได้เพียง 700,000 ลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 3 ของปริมาณความจุ คาดว่าสามารถนำมาใช้ผลิตน้ำประปาได้อีกประมาณ 60 วันเท่านั้น จึงได้ประสานกับประปาส่วนภูมิภาค เพื่อหาแหล่งน้ำสำรองเพิ่มเติม
ส่วนปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ลดลงอย่างต่อเนื่อง มีปริมาณน้ำร้อยละ 61 ของความจุอ่าง คิดเป็นปริมาณน้ำใช้การได้ร้อยละ 29 ถือว่าน้อยกว่าปีที่แล้ว
ส่วนที่จังหวัดประสบภัยแล้งรุนแรงขณะนี้ ได้แก่ เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ เหลือปริมาณน้ำใช้ในอ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน และปราณบุรี เพียงร้อยละ 22 และ 13 ตามลำดับ เนื่องจากในพื้นที่ ปริมาณฝนตกทั้งปีต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ย ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค
นับเป็นปีแรกที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เกิดภาวะขาดแคลนน้ำอย่างมาก โดยปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำคลองบึง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำต้นทุนในการผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคในพื้นที่เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ และบริเวณใกล้เคียง ขณะนี้เหลือปริมาณน้ำใช้การได้เพียง 700,000 ลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 3 ของปริมาณความจุ คาดว่าสามารถนำมาใช้ผลิตน้ำประปาได้อีกประมาณ 60 วันเท่านั้น จึงได้ประสานกับประปาส่วนภูมิภาค เพื่อหาแหล่งน้ำสำรองเพิ่มเติม
ส่วนปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ลดลงอย่างต่อเนื่อง มีปริมาณน้ำร้อยละ 61 ของความจุอ่าง คิดเป็นปริมาณน้ำใช้การได้ร้อยละ 29 ถือว่าน้อยกว่าปีที่แล้ว