บุรีรัมย์ - ชลประทานบุรีรัมย์ งดปล่อยน้ำ 3 อ่าง ให้เกษตรกรปลูกข้าวนาปรังและทำการเกษตร หวั่นเกิดวิฤตขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคช่วงหน้าแล้ง หลังน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 3 แห่ง น่าเป็นห่วง มีระดับน้ำกักเก็บไม่ถึง 50% ของความจุ น้อยกว่าปีที่ผ่านมาเกือบครึ่ง
วันนี้ (11 ม.ค.) นายยงศักดิ์ ประภาพันธ์ศักดิ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า จากการสำรวจสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และ ขนาดกลาง ทั้ง 22 อ่างของจังหวัดบุรีรัมย์ ล่าสุด พบว่า ขณะนี้มีปริมาณน้ำกักเก็บเฉลี่ย 221 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปริมาณความจุทั้งหมด 298.5 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 74 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม ในจำนวนนี้มีอ่างเก็บน้ำ 3 แห่งที่น่าเป็นห่วง คือ อ่างเก็บน้ำห้วยตลาด ห้วยจระเข้มาก อ.เมือง และ อ่างเก็บน้ำห้วยสวาย อ.กระสัง เนื่องจากขณะนี้มีปริมาณน้ำกักเก็บในอ่างเหลือไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง และหากเปรียบเทียบในช่วงเดียวกัน พบว่า ปีนี้ระดับน้ำน้อยกว่าปีที่ผ่านมาเกือบครึ่ง
ดังนั้น ทางชลประทานจึงได้งดปล่อยน้ำทั้ง 3 อ่าง ให้เกษตรกรปลูกข้าวนาปรัง และทำการเกษตร เพราะเกรงจะเกิดวิฤตไม่มีน้ำดิบเพียงพอในการผลิตประปา ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคในช่วงหน้าแล้งได้ ส่วนอ่างเก็บน้ำที่เหลืออีก 19 อ่าง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่น่าเป็นห่วง และยังมีการปล่อยน้ำให้เกษตรกรในเขตบริการทำการเกษตรตามปกติ
ทั้งนี้ ในแต่ละเดือนต้องใช้น้ำดิบในการผลิตประปาบริการประชาชนในเขต อ.เมือง และ อ.ห้วยราช 600,000-700,000 ลูกบาศก์เมตร รวมระเหยรั่วซึมอีกประมาณ 300,000 ลูกบาศก์เมตร รวมเป็นเดือนละ 1 ล้านลูกบาศก์เมตร
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นทางชลประทานได้มีการสูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำน้ำมาศ อ.ลำปลายมาศ มาเติมใส่อ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มากสำรองไว้แล้ว 1.5 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่หากน้ำไม่เพียงพอก็จะทำการสูบมาใส่เพิ่มเติมอีก เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคอย่างแน่นอน
