ถ้อยแถลงของ "ฮอร์ นัมฮง" ต่อ UNSC ระบุว่า ไทยรุกรานกัมพูชา อ้างเดิมๆ ไทยยอมรับแผนที่อัตราส่วน 1 ต่อ 200,000 รวมถึงระวางดงรัก แต่กลับอ้างสิทธิบนพื้นที่ 4.6 ตร.กม.รอบๆปราสาทพระวิหาร เรียกร้อง UNSC ส่งผู้สังเกตการณ์หรือกองกำลังรักษาสันติภาพ หรืออย่างน้อยสุดก็คณะพิสูจน์ความจริงลงพื้นที่ และเรียกร้องให้ส่งคำพิพากษาศาลโลกกลับไปตีความใหม่
เมื่อเวลา 02.16 น. เว็บไซต์ฟิฟทีนมูฟ ได้เผยแพร่ถ้อยแถลงของนายฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ที่มีต่อคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ
หรอื UNSC โดยนายฮอร์ นัมฮง ระบุว่าไทยเป็นฝ่ายรุกรานกัมพูชาก่อน ทำให้ปราสาทพระวิหารและวัดแก้วสิกขาฯได้รับความเสียหาย ชาวกัมพูชาเสียชีวิต 6 ราย และบาดเจ็บ
71 คน พร้อมทั้งอ้างถึงอนุสัญญา 1904 และสนธิสัญญา 1907 รวมถึงเอ็มโอยู 2543 โดยระบุว่าไทยยอมรับแผนที่อัตราส่วน 1 ต่อ 200,000 รวมถึงระวางดงรักด้วย นอกจากนี้เขายังได้อ้างถึงคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเมื่อปี 2505 ที่ระบุว่าปราสาทพระวิหารอยู่บนพื้นที่ของกัมพูชา แต่ไทยอ้างสิทธิเหนือพื้นที่ 4.6 ตร.กม.รอบๆปราสาทพระวิหารตั้งแต่กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก
นายฮอร์ยังได้กล่าวว่าไทยได้รุกรานกัมพูชาก่อนหน้านี้ตั้งแต่เดือนก.ค.2551 ด้วยกำลังทหารและอาวุธที่เหนือกว่า จนมาในปัจจุบันเมื่อเดือนม.ค.2554 ไทยได้เรียกร้องให้กัมพูชาปลดธงที่วัดแก้วสิกขาฯ มีการซ้อมรบ รวมถึงการข่มขู่จะใช้กำลังทหาร จนในที่สุดนำไปสู่การปะทะกันในวันที่ 4-7 ก.พ.2554 ซึ่งไทยได้ละเมิดกฎบัตรของสหประชาชาติ ทางกัมพูชาจึงต้องการให้สหประชาชาติช่วยยุติการรุกรานของไทย และขอให้มีผู้สังเกตุการณ์หรือตัวแทนสหประชาชาติเข้ามาค้นหาความจริงในพื้นที่ โดยกัมพูชามองว่าการเจรจาทวิภาคีนั้นล้มเหลว แต่กัมพูชาก็ยังจะยึดการเจรจาตามกรอบภูมิภาคคือระดับอาเซียน แต่ถ้าเกิดความล้มเหลวอีก ก็อยากให้ UNSC เข้ามามีส่วนร่วม และส่งเรื่องให้ศาลโลกตีความคำตัดสินเมื่อปี 2505 อีกครั้ง
ดูต้นฉบับถ้อยแถลงของนายฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคง วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554 ได้ที่ http://www.15thmove.net/files/2011/02/hor-numhong-unsc.jpg
อ่านข้อความที่ฟิฟทีนมูฟแปลเรียบเรียงได้ที่ http://www.15thmove.net/news/hor-namhong-statement-unsc/#more-2858
เมื่อเวลา 02.16 น. เว็บไซต์ฟิฟทีนมูฟ ได้เผยแพร่ถ้อยแถลงของนายฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ที่มีต่อคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ
หรอื UNSC โดยนายฮอร์ นัมฮง ระบุว่าไทยเป็นฝ่ายรุกรานกัมพูชาก่อน ทำให้ปราสาทพระวิหารและวัดแก้วสิกขาฯได้รับความเสียหาย ชาวกัมพูชาเสียชีวิต 6 ราย และบาดเจ็บ
71 คน พร้อมทั้งอ้างถึงอนุสัญญา 1904 และสนธิสัญญา 1907 รวมถึงเอ็มโอยู 2543 โดยระบุว่าไทยยอมรับแผนที่อัตราส่วน 1 ต่อ 200,000 รวมถึงระวางดงรักด้วย นอกจากนี้เขายังได้อ้างถึงคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเมื่อปี 2505 ที่ระบุว่าปราสาทพระวิหารอยู่บนพื้นที่ของกัมพูชา แต่ไทยอ้างสิทธิเหนือพื้นที่ 4.6 ตร.กม.รอบๆปราสาทพระวิหารตั้งแต่กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก
นายฮอร์ยังได้กล่าวว่าไทยได้รุกรานกัมพูชาก่อนหน้านี้ตั้งแต่เดือนก.ค.2551 ด้วยกำลังทหารและอาวุธที่เหนือกว่า จนมาในปัจจุบันเมื่อเดือนม.ค.2554 ไทยได้เรียกร้องให้กัมพูชาปลดธงที่วัดแก้วสิกขาฯ มีการซ้อมรบ รวมถึงการข่มขู่จะใช้กำลังทหาร จนในที่สุดนำไปสู่การปะทะกันในวันที่ 4-7 ก.พ.2554 ซึ่งไทยได้ละเมิดกฎบัตรของสหประชาชาติ ทางกัมพูชาจึงต้องการให้สหประชาชาติช่วยยุติการรุกรานของไทย และขอให้มีผู้สังเกตุการณ์หรือตัวแทนสหประชาชาติเข้ามาค้นหาความจริงในพื้นที่ โดยกัมพูชามองว่าการเจรจาทวิภาคีนั้นล้มเหลว แต่กัมพูชาก็ยังจะยึดการเจรจาตามกรอบภูมิภาคคือระดับอาเซียน แต่ถ้าเกิดความล้มเหลวอีก ก็อยากให้ UNSC เข้ามามีส่วนร่วม และส่งเรื่องให้ศาลโลกตีความคำตัดสินเมื่อปี 2505 อีกครั้ง
ดูต้นฉบับถ้อยแถลงของนายฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคง วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554 ได้ที่ http://www.15thmove.net/files/2011/02/hor-numhong-unsc.jpg
อ่านข้อความที่ฟิฟทีนมูฟแปลเรียบเรียงได้ที่ http://www.15thmove.net/news/hor-namhong-statement-unsc/#more-2858