การประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (9 ก.ค.) จะเริ่มในเวลา 09.00 น. โดยมีวาระที่น่าสนใจ อาทิ นายกรัฐมนตรีให้กระทรวงสาธารณสุขเสนอเรื่องมาตรการป้องกันการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เป็นวาระเร่งด่วนให้ที่ประชุมพิจารณา ซึ่งขณะนี้ในประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 11 ราย
ขณะที่กระทรวงมหาดไทย เสนอขออนุมัติงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2552 กว่า 2,280,251,400 บาท ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้ในโครงการสร้างหลักประกันรายได้แก่ผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับเบี้ยยังชีพ และโครงการส่งเสริมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)
ด้านกระทรวงคมนาคม เสนอขออนุมัติงบประมาณกว่า 679 ล้านบาท เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายจริงที่ภาครัฐและภาคเอกชนใช้ช่วยเหลือผู้โดยสารที่ตกค้างในระหว่างที่มีการปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง รวมทั้งเสนอรายงานค่าเสียหายการสูญเสียรายได้ของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และอุตสาหกรรมการบิน จากการปิดสนามบินกว่า 18,932 ล้านบาท ซึ่งจะให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาดำเนินการหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป
นอกจากนี้ จะมีการพิจารณาการต่ออายุ 5 มาตรการ รวมถึงการลดอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ตามที่วุฒิสภาเสนอ เพื่อเป็นการช่วยลดภาระให้ประชาชน
ด้านกระทรวงการคลัง จะมีการเสนอระเบียบการใช้จ่ายเงินตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระลอก 2 พร้อมทั้งเสนอการแก้ไขปัญหาระบบการจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบอิเล็คทรอนิกส์ หรืออี-ออกชั่น รวมทั้งการเสนอระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับแผนการบริหารโครงการแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 และยังจะเสนอขอความเห็นชอบกฎหมาย 4 ฉบับ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลังได้เสนอมาให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้พิจารณา
นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จะเสนอขอความเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ตามรายชื่อที่ได้มีการเสนอ หลังจากคณะกรรมการชุดเดิมหมดวาระเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ขณะที่กระทรวงมหาดไทย เสนอขออนุมัติงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2552 กว่า 2,280,251,400 บาท ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้ในโครงการสร้างหลักประกันรายได้แก่ผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับเบี้ยยังชีพ และโครงการส่งเสริมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)
ด้านกระทรวงคมนาคม เสนอขออนุมัติงบประมาณกว่า 679 ล้านบาท เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายจริงที่ภาครัฐและภาคเอกชนใช้ช่วยเหลือผู้โดยสารที่ตกค้างในระหว่างที่มีการปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง รวมทั้งเสนอรายงานค่าเสียหายการสูญเสียรายได้ของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และอุตสาหกรรมการบิน จากการปิดสนามบินกว่า 18,932 ล้านบาท ซึ่งจะให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาดำเนินการหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป
นอกจากนี้ จะมีการพิจารณาการต่ออายุ 5 มาตรการ รวมถึงการลดอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ตามที่วุฒิสภาเสนอ เพื่อเป็นการช่วยลดภาระให้ประชาชน
ด้านกระทรวงการคลัง จะมีการเสนอระเบียบการใช้จ่ายเงินตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระลอก 2 พร้อมทั้งเสนอการแก้ไขปัญหาระบบการจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบอิเล็คทรอนิกส์ หรืออี-ออกชั่น รวมทั้งการเสนอระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับแผนการบริหารโครงการแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 และยังจะเสนอขอความเห็นชอบกฎหมาย 4 ฉบับ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลังได้เสนอมาให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้พิจารณา
นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จะเสนอขอความเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ตามรายชื่อที่ได้มีการเสนอ หลังจากคณะกรรมการชุดเดิมหมดวาระเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
