xs
xsm
sm
md
lg

รัฐอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 8เดือนขาดดุลกว่า5แสนล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – คลังเผยฐานะการคลังดือนพ.ค.ขาดดุลเงินสด 4.65 หมื่นล้านบาท รวม 8 เดือนขาดดุลแล้วกว่า 4.98 แสนล้านบาท หลังรัฐบาลรับบทพระเอกอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบสร้างความเชื่อมั่นให้ภาคเอกชนลงทุนและกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังได้แถลงฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด ในเดือนพ.ค. 52 รัฐบาลยังคงมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจในขณะที่ภาคเอกชนยังอ่อนแอผ่านการขาดดุลเงินงบประมาณ 4.65 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2552 รัฐบาลขาดดุลเงินงบประมาณจำนวนรวม 4.98 แสนล้านบาท และเมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่เกินดุล 1.71 หมื่นล้านบาท ทำให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวมทั้งสิ้น 4.8 แสน ล้านบาท คิดเป็น 5.3% ของ GDP

ทั้งนี้จากตัวเลขการขาดดุลงบประมาณดังกล่าวสะท้อนถึงความสำเร็จของการใช้จ่ายของภาครัฐในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและลดการชะลอตัวของภาคเศรษฐกิจในสาขาต่างๆ ทั้งนี้ รัฐบาลได้ชดเชยการขาดดุลเงินสดด้วยการออกพันธบัตร ตั๋วสัญญาใช้เงิน และตั๋วเงินคลัง รวมทั้งใช้เงินคงคลังบางส่วน ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนพ.ค. เท่ากับ 1.01 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่สูงและมั่นคงต่อฐานะการคลังของรัฐบาล โดยมีรายละเอียด ดังนี้

ฐานะการคลังเดือนพ.ค. 52 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง 1.14 แสนล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 5.45 หมื่นล้านบาท โดยมีสาเหตุสำคัญจากการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีเงินได้ปิโตรเลียมต่ำกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากวันครบกำหนดการยื่นชำระภาษีจากกำไรสุทธิของนิติบุคคล และภาษีเงินได้ปิโตรเลียมตรงกับวันหยุดราชการจึงได้มีการยืดระยะเวลาการยื่นชำระภาษีออกไปเป็นวันที่ 1 มิ.ย. 52 ทำให้มีรายได้ส่วนหนึ่งเหลื่อมไปอยู่ในเดือนมิ.ย. นอกจากนั้นการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง

ในขณะที่รัฐบาลมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น 1.61 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 3.4 หมื่นล้านบาท สำหรับการเบิกจ่ายเงินงบประมาณที่สำคัญในเดือนนี้ ได้แก่ เงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จำนวน 2.16 หมื่นล้านบาท รายจ่ายให้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจำนวน 4.1 พันล้านบาท และเงินอุดหนุนให้แก่กระทรวงศึกษาธิการจำนวน 4 พันล้านบาท

จากรายได้นำส่งคลังและการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลข้างต้นส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณในเดือนพ.ค. 52 ขาดดุล 4.65 หมื่นล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุล 891 ล้านบาท ทำให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดจำนวน 4.74 หมื่นล้านบาท ซึ่งรัฐบาลมีการกู้เงินเพื่อการชดเชยการขาดดุลโดยออกพันธบัตร และตั๋วเงินคลังจำนวน 5.13 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ดุลเงินสด เกินดุลจำนวน 3.8 พันล้านบาท

สำหรับฐานะการคลังในช่วง 8 เดือนแรกปีงบประมาณ 52 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 7.76 แสนล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 1.47 แสนล้านบาท เนื่องจากการจัดเก็บภาษีของ 3 กรมจัดเก็บภาษีในสังกัดกระทรวงการคลัง คือกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร ลดลงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม อากรขาเข้า และภาษีภาษีสรรพสามิตน้ำมัน นอกจากนั้นการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจก็ลดลงเช่นกัน

ส่วนรายจ่ายรัฐบาลมีการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลมีจำนวนทั้งสิ้น 1.27 ล้านล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 1.97 แสนล้านบาท โดยดุลการคลังรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด ขาดดุล 4.8 แสนล้านบาท โดยเป็นการขาดดุลเงินงบประมาณ 4.98 แสนล้านบาท ส่วนดุลเงินนอกงบประมาณเกินดุลจำนวน 1.71 หมื่นล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการได้รับชดใช้เงินคงคลังจำนวน 2.75 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ รัฐบาลได้บริหารเงินสดให้สอดคล้องกับความต้องการใช้เงิน รวมทั้งเพื่อเป็นการประหยัดภาระดอกเบี้ย จึงได้ชดเชยการขาดดุลดังกล่าวด้วยการออกพันธบัตร ตั๋วสัญญาใช้เงิน และตั๋วเงินคลังรวม 3.53 แสนล้านบาท และใช้เงินคงคลัง 1.27 แสนล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนพ.ค.มีจำนวน 1 แสนล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น