นายภักดี โพธิศิริ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวในการสัมมนาเรื่อง "ความร่วมมือในการป้องปรามการทุจริตและการบังคับใช้กฎหมายธุรกิจสถาบันการเงิน" ว่า ป.ป.ช.กำลังพิจารณาเพื่อแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมืออาชญากรรมระหว่างประเทศ การติดตามสินทรัพย์ และการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน โดยกฎหมาย 2 ฉบับอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเมื่อผ่านการพิจารณาแล้ว ป.ป.ช. จะมีการลงนามสัตยาบันอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต เพื่อให้ ป.ป.ช.มีอำนาจในการตรวจสอบสถาบันการเงินเอกชนตามการร้องขอของ ธปท. รวมทั้งอำนาจเรื่องการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน
นายภักดี กล่าวว่า ในปี 2551 มีเรื่องร้องเรียนมายัง ป.ป.ช. จำนวน 187 เรื่อง เป็นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสถาบันการเงิน 56 เรื่อง อยู่ระหว่างดำเนินการ 22 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ 12 เรื่อง และติดตามผล 22 เรื่อง โดยปัญหาการทุจริตของสถาบันการเงิน เป็นคณะกรรมการของสถาบันการเงินร้อยละ 25 ผู้บริหารสถาบันการเงินร้อยละ 25 และผู้ปฏิบัติงานร้อยละ 50
ด้านนายวีระชาติ ศรีบุญมา ผู้อำนวยการสำนักคดีฝ่ายกฎหมายและคดี ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ในอนาคต ป.ป.ช.จะเข้ามาดูแลปัญหาการทุจริตของภาคเอกชนเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่มีอำนาจในการตรวจสอบสถาบันการเงินของรัฐ ซึ่งหากมีการติดตามทรัพย์สินที่ทุจริต จะมีศูนย์ติดตามทรัพย์สินซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ ป.ป.ช.เป็นผู้ดำเนินการ
ส่วนคดีอาญาที่ ธปท.ร้องทุกข์กล่าวโทษตั้งแต่อดีตจนถึง 31 ธันวาคม 2551 มีจำนวน 82 คดี รวมจำนวนทุนทรัพย์ 73,500 ล้านบาท มีคดีที่ถึงที่สุดแล้ว 28 คดี อีก 10 คดี อยู่ระหว่างการดำเนินการชั้นอัยการ และอีก 44 คดี อยู่ในชั้นศาล แบ่งเป็นคดีทุจริตธนาคารพาณิชย์ 30 คดี ทุนทรัพย์ 46,876 ล้านบาท คดี บง. บงล. และ บล. จำนวน 35 คดี ทุนทรัพย์ 11,888 ล้านบาท และเป็นคดีควบคุมแลกเปลี่ยน 17 คดี ทุนทรัพย์ 421 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 14,735 ล้านบาท
นายภักดี กล่าวว่า ในปี 2551 มีเรื่องร้องเรียนมายัง ป.ป.ช. จำนวน 187 เรื่อง เป็นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสถาบันการเงิน 56 เรื่อง อยู่ระหว่างดำเนินการ 22 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ 12 เรื่อง และติดตามผล 22 เรื่อง โดยปัญหาการทุจริตของสถาบันการเงิน เป็นคณะกรรมการของสถาบันการเงินร้อยละ 25 ผู้บริหารสถาบันการเงินร้อยละ 25 และผู้ปฏิบัติงานร้อยละ 50
ด้านนายวีระชาติ ศรีบุญมา ผู้อำนวยการสำนักคดีฝ่ายกฎหมายและคดี ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ในอนาคต ป.ป.ช.จะเข้ามาดูแลปัญหาการทุจริตของภาคเอกชนเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่มีอำนาจในการตรวจสอบสถาบันการเงินของรัฐ ซึ่งหากมีการติดตามทรัพย์สินที่ทุจริต จะมีศูนย์ติดตามทรัพย์สินซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ ป.ป.ช.เป็นผู้ดำเนินการ
ส่วนคดีอาญาที่ ธปท.ร้องทุกข์กล่าวโทษตั้งแต่อดีตจนถึง 31 ธันวาคม 2551 มีจำนวน 82 คดี รวมจำนวนทุนทรัพย์ 73,500 ล้านบาท มีคดีที่ถึงที่สุดแล้ว 28 คดี อีก 10 คดี อยู่ระหว่างการดำเนินการชั้นอัยการ และอีก 44 คดี อยู่ในชั้นศาล แบ่งเป็นคดีทุจริตธนาคารพาณิชย์ 30 คดี ทุนทรัพย์ 46,876 ล้านบาท คดี บง. บงล. และ บล. จำนวน 35 คดี ทุนทรัพย์ 11,888 ล้านบาท และเป็นคดีควบคุมแลกเปลี่ยน 17 คดี ทุนทรัพย์ 421 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 14,735 ล้านบาท
