“วิชาญ” เย้ย “รัฐบาล-พรรคร่วม” ส่อแตก หลังโครงการรถเมล์ทำร้าวหนัก ไม่หวั่นยุบสภา ชี้เกิดยาก เพราะต่างมีผลประโยชน์ร่วมกันอื้อ ซัดภูมิใจไทยขึ้นป้ายคัตเอาต์ไม่สมควร ตัดหาง “จุมพฏ” ไม่แคร์ย้ายรัง คุยโว กลุ่ม 40 ส.ส.ปชป.ประสานซบเพื่อไทย
วันนี้ (8 มิ.ย.) ที่รัฐสภา นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันที่เกิดความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลว่า โครงการนี้เป็นโครงการของรัฐบาล แต่กลับมีการแบ่งแยกจากพรรคประชาธิปัตย์ จึงทำให้เห็นความขัดแย้งของพรรคร่วมรัฐบาลมากขึ้น โดยแสดงตัวเป็นตัวแทนของการต่อต้านการทุจริต นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวเป็นการจ้องหาผลประโยชน์มากกว่า เนื่องจากตนได้รับทราบข้อมูลจากผู้ใหญ่ใน ขสมก.ที่ได้มาพูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยเกรงว่า ขสมก.จะกลายแพะรับบาป เพราะรัฐบาลมักเอาอะไรมาใส่ให้ ขสมก.ทั้งๆ ที่เป็นความต้องการจะจ้องหาผลประโยชน์กัน รวมทั้ง ผอ.ขสมก.ก็เป็นบุคคลที่นักการเมืองแต่งตั้งมา ดังนั้นจึงอาจเป็นผลประโยชน์ต่างตอบแทนและตัดสินใจตามนักการเมืองสั่ง
นายวิชาญกล่าวว่า ตนเห็นว่าโครงการนี้ถือเป็นโครงการที่ดี แต่จะต้องมีการตรวจสอบให้รอบคอบ แต่หากโครงการนี้ไม่ผ่าน ตนก็รู้สึกเห็นใจพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากจะกลายเป็นจำเลยสังคม ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ก็จะได้คะแนน ในฐานะที่ได้คัดค้านโครงการที่ไม่โปร่งใส อย่างไรก็ตาม มองว่าความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลอาจจะบานปลาย และเชื่อว่าจะไม่ยุบสภาในเร็วๆ นี้ เพราะพรรคร่วมรัฐบาลยังมีผลประโยชน์ร่วมกันอยู่ โดยเฉพาะการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 และ พ.ร.ก.เงินกู้ 4 แสนล้านที่กำลังจะมีการพิจารณาในวันที่ 15-23 มิ.ย.นี้
นายวิชาญกล่าวต่อว่า มั่นใจในการทำงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แต่เห็นว่าระยะเพียง 1 เดือนอาจน้อยเกินไป เนื่องจากเป็นโครงการใหญ่และพรรคเพื่อไทยขอสนับสนุนให้มีการจัดสัมมนาเพื่อรับความคิดเห็นจากทุกฝ่าย ซึ่งการสัมมนาของกระทรวงคมนาคมที่จะจัดขึ้นในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ เพื่อระดมความคิดเห็นผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนักวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิ ตัวแทนจาก ขสมก.ตัวแทนจากบริษัทเอกชน และตัวแทนจากอุตสาหกรรมประกอบการรถร่วมฯ มาร่วมกันหาทางออกในโครงการดังกล่าวด้วย
ส.ส.กทม.กล่าวอีกว่า ไม่เห็นด้วยที่พรรคภูมิใจไทยได้ขึ้นป้ายคัตเอาต์เพื่อชี้แจงสนับสนุนโครงการ และจูงใจให้ประชาชนเห็นด้วยกับการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี เพราะเห็นว่าเป็นการชี้นำ และกดดันรัฐบาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ รวมทั้งเห็นว่ารัฐบาลต้องทนแรงเสียดทานกับโครงการที่อาจจะได้รับการคัดค้านให้ได้ เหมือนที่พรรคเพื่อไทยโดนในขณะที่เป็นรัฐบาล
นายวิชาญกล่าวถึงกรณีที่นายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ไปร่วมหาเสียงในการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จ.สกลนคร กับพรรคภูมิใจไทย ว่าเป็นที่ชัดเจนแล้วว่านายจุมพฏจะย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย เพราะได้ประกาศชัดด้วยตัวเอง และได้สวมใส่เสื้อของพรรคภูมิใจไทยด้วย แต่พรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้หวั่นไหว เนื่องจากขณะนี้มีข้อมูลว่า ส.ส.จากพรรคอื่น โดยเฉพาะกลุ่ม 40 ส.ส.ของพรรคประชาธิปปัตย์ ที่ขณะนี้ไม่พอใจการทำงานภายในพรรคประชาธิปัตย์ ได้ติดต่อเข้ามาพูดคุยว่าอาจจะมีการย้ายพรรค แต่ขณะนี้ไม่สามารถเปิดเผยจำนวนได้ แต่บอกได้แต่เพียงว่าเป็น ส.ส.ที่มีความคุ้นเคยกัน และอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน
