นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานกรรมการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดแถลงข่าวพร้อมนายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ในฐานะรักษาการ ขสมก. นายโอภาส เพ็ชรมุนี กรรมการ ขสมก. โดยนายปิยะพันธ์ ได้โต้ตอบประเด็นที่นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ รองประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวหาว่า นายปิยะพันธ์ เคยถูกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบและชี้มูลความผิดว่าส่อทุจริต กรณีการจัดเช่าซื้อรถเมล์ยูโรทู 500 คัน เมื่อปี 2544 ซึ่งขณะนั้นนายปิยะพันธ์ เป็นประธานคณะกรรมการเปิดซองและเจรจาต่อรองราคา และ สตง.ชี้มูลตรวจสอบพบรัฐเสียหาย 1,591,491,250 บาท และเมื่อรถยูโรทูออกวิ่งก็ขาดทุนวันละ 3,000 บาทต่อคันต่อวัน เป็นระยะเวลารวม 10 ปี รวมเป็นเงินประมาณ 5,475 ล้านบาท เมื่อรวมกับยอดเดิมทำให้รัฐเสียหายประมาณ 7,066,491,250 บาท
โดยนายปิยะพันธ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเก่า และเรื่องนี้กระทรวงการคลังเคยมีเอกสารชี้แจงให้แก่คณะกรรมการสอบสวนของ สตง.ว่าราคาเสียหาย 1,591,491,250 บาท ไม่ใช่ราคากลาง พร้อมกับมีความเห็นว่าคณะกรรมการชุดดังกล่าวไม่ได้กระทำความผิด
ส่วนกรณีที่มีคณะกรรมาธิการและวุฒิสมาชิกจะไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ปลดตนจากประธานบอร์ด ขสมก.นั้น เรื่องนี้เป็นปัญหาของฝ่ายการเมือง ที่ผ่านมาตนได้เคยยื่นหนังสือลาออกถึงนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมไปแล้ว 2 ครั้ง แต่นายโสภณได้ขอร้องให้ช่วยทำงานต่อ โดยตนไม่มีปัญหาว่าจะอยู่หรือไป เรื่องนี้เป็นปัญหาของฝ่ายการเมืองต้องไปตัดสินใจเอง
ทั้งนี้ นายปิยะพันธ์ยังกล่าวอีกครั้งว่า ที่ผ่านมาบอร์ด ขสมก.ได้ทำหน้าที่อย่างถึงที่สุดแล้ว ในกรณีจัดทำโครงการเช่ารถเอ็นจีวี 4,000 คัน ของขสมก. แต่หลังจากนี้รัฐบาลจะตัดสินใจใช้วิธีเช่าหรือซื้อก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะตัดสินใจเช่นกัน
ด้านนายชัยรัตน์ สงวนชื่อ รักษาการ ผ.อ.ขสมก.กล่าวยอมรับว่า การจัดทำประชาสัมพันธ์โครงการรถเมล์เอ็นจีวีผ่านสื่อต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา ใช้งบประมาณของ ขสมก.ในวงเงิน 4 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณที่ได้รับจัดสรรเพื่อใช้ในงานประชาสัมพันธ์ปีนี้
โดยนายปิยะพันธ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเก่า และเรื่องนี้กระทรวงการคลังเคยมีเอกสารชี้แจงให้แก่คณะกรรมการสอบสวนของ สตง.ว่าราคาเสียหาย 1,591,491,250 บาท ไม่ใช่ราคากลาง พร้อมกับมีความเห็นว่าคณะกรรมการชุดดังกล่าวไม่ได้กระทำความผิด
ส่วนกรณีที่มีคณะกรรมาธิการและวุฒิสมาชิกจะไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ปลดตนจากประธานบอร์ด ขสมก.นั้น เรื่องนี้เป็นปัญหาของฝ่ายการเมือง ที่ผ่านมาตนได้เคยยื่นหนังสือลาออกถึงนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมไปแล้ว 2 ครั้ง แต่นายโสภณได้ขอร้องให้ช่วยทำงานต่อ โดยตนไม่มีปัญหาว่าจะอยู่หรือไป เรื่องนี้เป็นปัญหาของฝ่ายการเมืองต้องไปตัดสินใจเอง
ทั้งนี้ นายปิยะพันธ์ยังกล่าวอีกครั้งว่า ที่ผ่านมาบอร์ด ขสมก.ได้ทำหน้าที่อย่างถึงที่สุดแล้ว ในกรณีจัดทำโครงการเช่ารถเอ็นจีวี 4,000 คัน ของขสมก. แต่หลังจากนี้รัฐบาลจะตัดสินใจใช้วิธีเช่าหรือซื้อก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะตัดสินใจเช่นกัน
ด้านนายชัยรัตน์ สงวนชื่อ รักษาการ ผ.อ.ขสมก.กล่าวยอมรับว่า การจัดทำประชาสัมพันธ์โครงการรถเมล์เอ็นจีวีผ่านสื่อต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา ใช้งบประมาณของ ขสมก.ในวงเงิน 4 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณที่ได้รับจัดสรรเพื่อใช้ในงานประชาสัมพันธ์ปีนี้
