“ชาญชัย” ยืนยันให้ “ปิยะพันธ์” ชี้แจงกรณีเช่า-ซื้อรถเมล์ 4 พันคัน ขู่มาเองหรือไม่ ไม่สน เตรียมชงกรรมาธิการถกแผลเก่าเอี่ยวเช่ารถยูโร ทำรัฐเสียหาย 1.5 พันล้าน ซัดคดีนานเกือบ 10 ปี กลับลอยนวลไม่โดนจัดการ เตือนรัฐบาลระวังซ้ำรอยเก่า ขู่หากยังอนุมัติอีกเจอสอบทั้ง ครม.แน่
วันนี้ (15 มิ.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 13.15 น. นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า คณะกรรมาธิการยังคงยืนยันที่จะเชิญนายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานบอร์ด ขสมก.เข้าชี้แจงโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน ต่อคณะกรรมาธิการฯ ในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ หลังจากเลื่อนไม่เข้าชี้แจงมาแล้ว 2 ครั้ง ถือว่าเราได้ให้เป็นกรณีพิเศษที่มีการเพิ่มวันประชุมขึ้นมาอีกวัน ดังนั้น ไม่ว่านายปิยะพันธ์จะมาชี้แจงหรือไม่ก็จะเสนอให้คณะกรรมาธิการฯสอบสวนเรื่องที่นายปิยะพันธ์เคยถูกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ตรวจสอบและชี้มูลความผิดว่าส่อทุจริตกรณีการจัดเช่าซื้อรถเมล์ยูโรทู 500 คัน เมื่อปี 2544 ซึ่งขณะนั้นนายปิยะพันธ์เป็นประธานคณะกรรมการเปิดซองและเจรจาต่อรองราคา ที่ สตง.ชี้ว่าทำให้รัฐเสียหาย 1,591,491,250 บาท และเมื่อรถยูโรทูออกวิ่งพบมีการขาดทุนวันละ 3 พันบาทต่อคันต่อวัน ในระยะเวลารวม 10 ปี รวมประมาณ 5,475 ล้านบาท
นายชาญชัยกล่าวต่อว่า เมื่อรวมกับยอดเดิมทำให้รัฐเสียหายประมาณ 7,066,491,250 บาท โดยทาง สตง.ชี้ว่า นายปิยะพันธ์กับพวกรวม 6 คน พิจารณาผลการประกวดราคาโดยไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับของ ขสมก.ตามคำสั่งแต่งตั้ง ทำให้ราชการเสียหาย มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าเป็นการนำไปสู่การทุจริต สตง.จึงได้แจ้งให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินคดี และเรียกค่าเสียหายทางแพ่งเป็นจำนวน 1,591,491,250 บาท แต่จนบัดนี้เวลาผ่านไปเกือบ 10 ปีแล้ว ส่วนราชการที่รับผิดชอบ ทั้งกระทรวงคมนาคม ป.ป.ช. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรี จึงไม่ดำเนินการลงโทษกับนายปิยะพันธ์ จึงจะเสนอให้คณะกรรมาธิการฯ เชิญตัวแทนหน่วยงานเหล่านี้เข้าชี้แจงต่อไป อย่างไรก็ตาม ไม่ทราบว่าการถูกชี้มูลดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อคุณสมบัติการเป็นประธานบอร์ด ขสมก.หรือไม่
รองประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวอีกว่า ต่อมารัฐบาลนายสมัครได้ตั้งนายปิยะพันธ์มาเป็นประธานบอร์ด ขสมก. และได้เสนอโครงการเช่ารถและจ้างเหมาซ่อมรถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน ในลักษณะเดียวกัน จึงเกรงว่าหากเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย จะสร้างหนี้ให้ประเทศชาติต้องรับภาระมหาศาล ดังนั้น ครม.ต้องพิจารณาถึงพฤติกรรมของนายปิยะพันธ์ว่าน่าไว้วางใจหรือไม่ แต่หาก ครม.อนุมัติเรื่องตามที่นายปิยะพันธ์เสนอ และพบว่ามีความผิดในภายหลัง คณะกรรมาธิการฯ ก็มีสิทธิสอบได้ทั้ง ครม.