นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการเดินทางไปเยอรมนีในเมืองต่างๆ พบว่า แม้เยอรมนีจะเป็นประเทศพัฒนาแล้ว แต่รัฐบาลยังส่งเสริมให้ชาวบ้านหันมาใช้พลังงานทดแทนจากชีวมวล เพื่อนำพลังงานจากธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ให้ได้เต็มที่และลดปัญหามลภาวะ โดยรัฐบาลเยอรมนีไม่ได้สนับสนุนให้กับประชาชนหรือบริษัทเอกชนที่กันมาใช้พลังงานทดแทนมากนัก มีเพียงการกู้เงินจากสถาบันการเงินอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ผ่อนปรน การไฟฟ้าของรัฐบาลจะรับซื้อกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ระบบในราคาที่ดีกว่า แต่ทำให้มีชาวบ้านสนใจทำโครงการดังกล่าวจำนวนมาก
จากแนวคิดดังกล่าวจึงต้องการนำมาปรับใช้ในประเทศไทย โดยเฉพาะโครงการชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง หรือกองทุนหมู่บ้าน กว่า 80,000 หมู่บ้านในประเทศไทย เนื่องจากงบประมาณในปี 2552 ซึ่งได้จัดสรรให้กว่า 20,000 ล้านบาท จนถึงในสิ้นปีนี้น่าจะมีการลงทุนทำโครงการในชุมชนมากขึ้นโดยเฉพาะโครงการชีวมวล แม้ว่างบประมาณในปี 53 จัดสรรให้เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 หรือเพิ่มขึ้น 3,000 ล้านบาท แต่ต้องการให้นำเงินไปใช้ในโครงการลงทุนระยะยาวในชุมชน แต่การดำเนินโครงการต่างๆ ต้องการให้เกิดจากแนวคิด หรือความต้องการของชุมชนมากกว่าการบังคับให้ทำจากภาครัฐ
นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า หากชาวบ้านสนใจดำเนินโครงการผลิตไฟฟ้าในชุมชน รัฐบาลพร้อมช่วยเหลือการนำเครื่องจักรจากประเทศที่มีความพร้อมโดยเฉพาะเยอรมนี เชื่อมั่นว่าการดำเนินการในลักษณะดังกล่าวคงไม่ยากนัก เพราะมีวัตถุดิบในพื้นที่จำนวนมาก และชาวบ้านสามารถรวมกลุ่มหลายหมู่บ้านช่วยกันทำโครงการได้ เพราะรัฐบาลต้องการให้นำเงินที่จัดสรรให้ไปใช้ในโครงการลงทุนขนาดเล็กที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ไม่ใช่ซื้อโต๊ะ เก้าอี้ ในหมู่บ้าน สิ่งของเล็กๆ น้อยๆ เหมือนช่วงที่ผ่านมา
จากแนวคิดดังกล่าวจึงต้องการนำมาปรับใช้ในประเทศไทย โดยเฉพาะโครงการชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง หรือกองทุนหมู่บ้าน กว่า 80,000 หมู่บ้านในประเทศไทย เนื่องจากงบประมาณในปี 2552 ซึ่งได้จัดสรรให้กว่า 20,000 ล้านบาท จนถึงในสิ้นปีนี้น่าจะมีการลงทุนทำโครงการในชุมชนมากขึ้นโดยเฉพาะโครงการชีวมวล แม้ว่างบประมาณในปี 53 จัดสรรให้เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 หรือเพิ่มขึ้น 3,000 ล้านบาท แต่ต้องการให้นำเงินไปใช้ในโครงการลงทุนระยะยาวในชุมชน แต่การดำเนินโครงการต่างๆ ต้องการให้เกิดจากแนวคิด หรือความต้องการของชุมชนมากกว่าการบังคับให้ทำจากภาครัฐ
นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า หากชาวบ้านสนใจดำเนินโครงการผลิตไฟฟ้าในชุมชน รัฐบาลพร้อมช่วยเหลือการนำเครื่องจักรจากประเทศที่มีความพร้อมโดยเฉพาะเยอรมนี เชื่อมั่นว่าการดำเนินการในลักษณะดังกล่าวคงไม่ยากนัก เพราะมีวัตถุดิบในพื้นที่จำนวนมาก และชาวบ้านสามารถรวมกลุ่มหลายหมู่บ้านช่วยกันทำโครงการได้ เพราะรัฐบาลต้องการให้นำเงินที่จัดสรรให้ไปใช้ในโครงการลงทุนขนาดเล็กที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ไม่ใช่ซื้อโต๊ะ เก้าอี้ ในหมู่บ้าน สิ่งของเล็กๆ น้อยๆ เหมือนช่วงที่ผ่านมา