เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ยักษ์ใหญ่รถยนต์อันดับหนึ่งของสหรัฐฯ ออกมาเตือนว่าบริษัทอาจจะเข้าสู่ภาวะล้มละลาย และถึงขั้นต้องเลิกกิจการชำระบัญชีขายทรัพย์สินใช้หนี้ หลังจากที่ผู้สอบบัญชีอิสระ ออกมาแสดง "ความวิตกรุนแรง" ว่า จีเอ็มจะสามารถประคองบริษัทไปตลาดรอดฝั่งหรือไม่ ทั้งนี้เป็นเนื้อหาในรายงานประจำปีที่นำออกเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี(5)
จีเอ็มเวลานี้ต้องใช้เงินกู้ฉุกเฉินที่ได้มาจากรัฐบาล 13,400 ล้านดอลลาร์ เพื่อประคับประคองให้สามารถดำเนินงานต่อไปได้ รวมทั้งเมื่อเดือนที่แล้วก็ออกมาแถลงว่ากำลังต้องการเงินอีก 22,600 ล้านดอลลาร์ จึงจะสามารถฝ่าผันวิกฤตเศรษฐกิจไปโดยไม่ล้มครืนลงกลางคัน
กระทรวงคลังสหรัฐฯยังไม่ประกาศว่าจะให้เงินกู้เพิ่มแก่จีเอ็มหรือไม่ รวมทั้งมีรายงานว่ากระทรวงกำลังพิจารณาว่า ควรจะปรับโครงสร้างบริษัทแห่งนี้ภายใต้การคุ้มครองของศาลล้มละลายหรือไม่
"รัฐบาลก็กำลังวิตกเกี่ยวกับปัญหาในอุตสาหกรรมรถยนต์อย่างมาก" โฆษกกระทรวงการคลัง ไอแซค เบเกอร์กล่าว "มีการตั้งทีมทำงานตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อพัฒนาแนวทางที่จะแก้ไขสถานการณ์ให้ได้"
ตามรายงานประจำปีของจีเอ็มซึ่งส่งให้แก่พวกหน่วยงานกำกับตรวจสอบ ได้ระบุว่า สำนักงานดีลอยต์ แอนด์ ทุช ซึ่งเป็นผู้สอบบัญชีอิสระ มีข้อสรุปว่า จีเอ็ม "ขาดทุนจากการดำเนินงาน, ขาดทุนจากราคาหุ้น และไม่สามารถที่จะก่อให้เกิดกระแสเงินสดอย่างเพียงพอกับความต้องการใช้ด้านต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินงานของบริษัทต่อไป จึงทำให้เกิดความสงสัยอย่างหนักต่อความสามารถของบริษัทที่จะเดินหน้าต่อไป"
และเกี่ยวกับการประเมินของผู้สอบบัญชีนี้ จีเอ็มได้ออกคำแถลงฉบับหนึ่งกล่าวว่า การประเมินนี้ "ไม่ใช่สิ่งที่ทางบริษัทไม่ได้คาดไว้ก่อน" และ "ไม่มีผลกระทบต่อมาตรการทั้งหลายที่บริษัทกำลังดำเนินการอย่างแข็งขันเพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจและความสามารถในระยะยาว"
จีเอ็มเวลานี้ต้องใช้เงินกู้ฉุกเฉินที่ได้มาจากรัฐบาล 13,400 ล้านดอลลาร์ เพื่อประคับประคองให้สามารถดำเนินงานต่อไปได้ รวมทั้งเมื่อเดือนที่แล้วก็ออกมาแถลงว่ากำลังต้องการเงินอีก 22,600 ล้านดอลลาร์ จึงจะสามารถฝ่าผันวิกฤตเศรษฐกิจไปโดยไม่ล้มครืนลงกลางคัน
กระทรวงคลังสหรัฐฯยังไม่ประกาศว่าจะให้เงินกู้เพิ่มแก่จีเอ็มหรือไม่ รวมทั้งมีรายงานว่ากระทรวงกำลังพิจารณาว่า ควรจะปรับโครงสร้างบริษัทแห่งนี้ภายใต้การคุ้มครองของศาลล้มละลายหรือไม่
"รัฐบาลก็กำลังวิตกเกี่ยวกับปัญหาในอุตสาหกรรมรถยนต์อย่างมาก" โฆษกกระทรวงการคลัง ไอแซค เบเกอร์กล่าว "มีการตั้งทีมทำงานตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อพัฒนาแนวทางที่จะแก้ไขสถานการณ์ให้ได้"
ตามรายงานประจำปีของจีเอ็มซึ่งส่งให้แก่พวกหน่วยงานกำกับตรวจสอบ ได้ระบุว่า สำนักงานดีลอยต์ แอนด์ ทุช ซึ่งเป็นผู้สอบบัญชีอิสระ มีข้อสรุปว่า จีเอ็ม "ขาดทุนจากการดำเนินงาน, ขาดทุนจากราคาหุ้น และไม่สามารถที่จะก่อให้เกิดกระแสเงินสดอย่างเพียงพอกับความต้องการใช้ด้านต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินงานของบริษัทต่อไป จึงทำให้เกิดความสงสัยอย่างหนักต่อความสามารถของบริษัทที่จะเดินหน้าต่อไป"
และเกี่ยวกับการประเมินของผู้สอบบัญชีนี้ จีเอ็มได้ออกคำแถลงฉบับหนึ่งกล่าวว่า การประเมินนี้ "ไม่ใช่สิ่งที่ทางบริษัทไม่ได้คาดไว้ก่อน" และ "ไม่มีผลกระทบต่อมาตรการทั้งหลายที่บริษัทกำลังดำเนินการอย่างแข็งขันเพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจและความสามารถในระยะยาว"