ข่าวต่างประเทศ - นอกจากจีเอ็ม หรือเจนเนอรัล มอเตอร์สต้องเสียบัลลังก์ในการเป็นผู้ผลิตรถยนต์หมายเลข 1 ของโลกแล้ว ตลาดรถยนต์นั่งของสหรัฐอเมริกาก็จ่อคิวเสียความเป็นผู้นำของโลกด้วยเช่นกัน แต่ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมรถยนต์โลก ที่จีนสามารถทำยอดขายต่อเดือนแซงหน้าเมืองลุงแซมไปได้ และคาดว่าถ้าสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น สหรัฐอเมริกามีสิทธิ์เสียตำแหน่งผู้นำในตลาดรถยนต์นั่งของโลกไปให้จีนไม่เกินปีนี้
จากข้อมูลที่เป็นทางการของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์ของจีนเปิดเผยว่า ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา แม้ว่าจีนจะมีตัวเลขยอดขายรถยนต์ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 8% แต่กับตัวเลข 790,000 คัน ทำให้จีนสามารถแซงหน้ายอดขายรถยนต์นั่งของสหรัฐอเมริกาในเดือนนี้ไปได้ โดยมีตัวเลขอยู่ที่ 656,976 คัน หรือลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 37%
นายไมค์ ดิจิโอวานนี่ กรรมการผู้จัดการของจีเอ็มกล่าวว่า ‘นี่ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จีนมียอดขายรถยนต์นั่งต่อเดือนแซงหน้าสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปได้’
นอกจากนั้น ดิจิโอวานนี่กล่าวว่า จีนอาจแซงหน้าสหรัฐอเมริกาไปได้เหมือนกับที่เมื่อปี 2006 พวกเขาสามารถแซงหน้าญี่ปุ่นขึ้นมาเป็นที่ 1 ในเอเชียได้อโดยในปี 2009 คาดว่าจีนน่าจะมียอดขายรถยนต์นั่งต่อปีอยู่ที่ 10.9 ล้านคัน มากกว่าตัวเลขที่ทางจีเอ็มประเมินว่าในปีนี้สหรัฐอเมริกาจะมียอดขายรถยนต์นั่งอยู่ที่ 9.8 ล้านคัน ขณะที่ Autodata Corp. คาดการณ์ตัวเลขที่ต่ำกว่านั้น คือ 9.57 ล้านคัน
งานนี้ถือว่าจีเอ็มมีส่วนช่วยให้จีนสามารถทำตัวเลขยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะทางแบรนด์ดังของเมืองลุงแซมทุ่มเงินหลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯในการขยายไลน์ผลิตของตัวเองในตลาดแห่งนี้ และในปี 2008 ก็เพิ่งทำสถิติยอดขายสูงสุดของตัวเองที่นี่ด้วยตัวเลข 1.09 ล้านคัน หรือเพิ่มขึ้นจากปี 2007 ถึง 6%
ด้วยจำนวนประชากรที่มีมากกว่า 1,300 ล้านคนทำให้ตลาดรถยนต์จีนได้รับการจับตามองจากผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลก ขณะที่สหรัฐอเมริกามีประชากรรวมกันเพียง 300 ล้านคัน หรือน้อยกว่าเกือบ 5 เท่าตัว และแม้ว่าตลาดทั่วโลกจะประสบปัญหายอดขายลดลง แต่บรรดานักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าตลาดเมืองจีนยังอยู่ในสภาพที่ดีอยู่ เพียงแต่อัตราส่วนการขยายตัวอาจจะไม่หวือหวาในระดับเลข 2 หลักเหมือนกับที่ผ่านๆ มา
จากข้อมูลที่เป็นทางการของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์ของจีนเปิดเผยว่า ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา แม้ว่าจีนจะมีตัวเลขยอดขายรถยนต์ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 8% แต่กับตัวเลข 790,000 คัน ทำให้จีนสามารถแซงหน้ายอดขายรถยนต์นั่งของสหรัฐอเมริกาในเดือนนี้ไปได้ โดยมีตัวเลขอยู่ที่ 656,976 คัน หรือลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 37%
นายไมค์ ดิจิโอวานนี่ กรรมการผู้จัดการของจีเอ็มกล่าวว่า ‘นี่ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จีนมียอดขายรถยนต์นั่งต่อเดือนแซงหน้าสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปได้’
นอกจากนั้น ดิจิโอวานนี่กล่าวว่า จีนอาจแซงหน้าสหรัฐอเมริกาไปได้เหมือนกับที่เมื่อปี 2006 พวกเขาสามารถแซงหน้าญี่ปุ่นขึ้นมาเป็นที่ 1 ในเอเชียได้อโดยในปี 2009 คาดว่าจีนน่าจะมียอดขายรถยนต์นั่งต่อปีอยู่ที่ 10.9 ล้านคัน มากกว่าตัวเลขที่ทางจีเอ็มประเมินว่าในปีนี้สหรัฐอเมริกาจะมียอดขายรถยนต์นั่งอยู่ที่ 9.8 ล้านคัน ขณะที่ Autodata Corp. คาดการณ์ตัวเลขที่ต่ำกว่านั้น คือ 9.57 ล้านคัน
งานนี้ถือว่าจีเอ็มมีส่วนช่วยให้จีนสามารถทำตัวเลขยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะทางแบรนด์ดังของเมืองลุงแซมทุ่มเงินหลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯในการขยายไลน์ผลิตของตัวเองในตลาดแห่งนี้ และในปี 2008 ก็เพิ่งทำสถิติยอดขายสูงสุดของตัวเองที่นี่ด้วยตัวเลข 1.09 ล้านคัน หรือเพิ่มขึ้นจากปี 2007 ถึง 6%
ด้วยจำนวนประชากรที่มีมากกว่า 1,300 ล้านคนทำให้ตลาดรถยนต์จีนได้รับการจับตามองจากผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลก ขณะที่สหรัฐอเมริกามีประชากรรวมกันเพียง 300 ล้านคัน หรือน้อยกว่าเกือบ 5 เท่าตัว และแม้ว่าตลาดทั่วโลกจะประสบปัญหายอดขายลดลง แต่บรรดานักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าตลาดเมืองจีนยังอยู่ในสภาพที่ดีอยู่ เพียงแต่อัตราส่วนการขยายตัวอาจจะไม่หวือหวาในระดับเลข 2 หลักเหมือนกับที่ผ่านๆ มา