นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แสดงความเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า จากสภาพการณ์ปัจจุบันกล่าวได้ว่า รัฐบาลแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุดในหลายเรื่อง ส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั้งการส่งออก การท่องเที่ยว และการลงทุน พรรคเพื่อไทยจึงขอตั้งคำถามถึงนายกรัฐมนตรี 7 ประเด็น คือ รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาการว่างงานที่คาดว่าจะมีผู้ถูกเลิกจ้างานทั้งปีถึง 2 ล้านคนอย่างไร ประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 10 ประเทศที่มีภาพลักษณ์แย่ จากการปิดสนามบินและการมีกฏหมายมาตรฐาน รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรให้ได้รับความเชื่อมั่นกลับคืนมา การส่งออกที่ชะลอตัวรัฐบาลมีนโยบายในการหาตลาดใหม่อย่างไร
นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า ตามที่มีข่าวการทวงหนี้ด้วยความรุนแรง โดยผู้มีอิทธิพล เป็นเพราะธนาคารไม่ยอมปล่อยสินเชื่อ จึงต้องมีการแสวงหาแหล่งเงินนอกระบบรัฐบาลจะแก้ปัญหานี้อย่างไร รัฐบาลจะแก้ไขอย่างไรต่อกระแสความไม่เห็นด้วยกับนโยบายช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยด้วยการแจกเงิน ซึ่งคนยากจน คนตกงาน และเกษตรกรไม่ได้รับความช่วยเหลือจากมาตรดังกล่าว รัฐบาลจะแก้ไขผลกระทบทางสังคมที่เกิดขึ้นจากพิษเศรษฐกิจ ปัญหาคนว่างงาน โดยเฉพาะปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติดและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และรัฐบาลจะเตรียมรับมือกับปัญหาภัยแล้งที่คาดว่า จะมีความรุนแรงที่สุดในปีนี้อย่างไร
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลควรเร่งให้ความชัดเจนในมาตรการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะมาตรการที่เป็นรูปธรรมเห็นผลชัดเจน โดยควรมีโครงการระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวในการช่วยเหลือแรงงานที่ตกงาน และเกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ให้ดิ่งตัวลงไปมากกว่านี้
นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า ตามที่มีข่าวการทวงหนี้ด้วยความรุนแรง โดยผู้มีอิทธิพล เป็นเพราะธนาคารไม่ยอมปล่อยสินเชื่อ จึงต้องมีการแสวงหาแหล่งเงินนอกระบบรัฐบาลจะแก้ปัญหานี้อย่างไร รัฐบาลจะแก้ไขอย่างไรต่อกระแสความไม่เห็นด้วยกับนโยบายช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยด้วยการแจกเงิน ซึ่งคนยากจน คนตกงาน และเกษตรกรไม่ได้รับความช่วยเหลือจากมาตรดังกล่าว รัฐบาลจะแก้ไขผลกระทบทางสังคมที่เกิดขึ้นจากพิษเศรษฐกิจ ปัญหาคนว่างงาน โดยเฉพาะปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติดและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และรัฐบาลจะเตรียมรับมือกับปัญหาภัยแล้งที่คาดว่า จะมีความรุนแรงที่สุดในปีนี้อย่างไร
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลควรเร่งให้ความชัดเจนในมาตรการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะมาตรการที่เป็นรูปธรรมเห็นผลชัดเจน โดยควรมีโครงการระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวในการช่วยเหลือแรงงานที่ตกงาน และเกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ให้ดิ่งตัวลงไปมากกว่านี้