เหยื่อแก๊งทวงหนี้ เข้าร้อง “จงรัก” ถูกชายฉกรรจ์กว่า 30 คน บุกทวงหนี้โหดถึงบ้านเข้าทำร้ายร่างกาย มือเท้า ไม้เบสบอลรุมตีสารพัดจนสลบ แฉ หยามเอาเท้าเหยียบหัว ทั้งๆ ที่ยกมือไหว้ร้องขอชีวิต “จงรัก” สั่งท้องที่ลากตัวแก๊งโหดมำดำเนินคดีให้เด็ดขาด ถือเป็นการกระทำอุกอาจเย้ยกฏหมาย ส่วน ร.ต.ต.สน.สุวินทวงศ์ ที่มีชื่อเอี่ยวสั่งสอบ หากพบเอี่ยวฟันวินัยแน่ แม้ค้าปลื้มจงรักควักเนื้อช่วย 2 พันทำมาหากิน
วันนี้ (27 ก.พ.) เมื่อเวลา 12.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นางอารีย์ เจริญมงคล อายุ 53 ปี อาชีพแม่ค้าขายข้าวแกง พร้อมด้วยนายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.เพื่อขอความเป็นธรรม กรณีถูกกลุ่มวัยรุ่นแก๊งทวงหนี้โหดประมาณ 30 คน บุกเข้าไปทำร้ายร่างกายถึงในบ้านพัก จนได้รับบาดเจ็บสาหัสเหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา
นางอารีย์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนไปกู้เงินนอกระบบมาจำนวน 4,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 และต้องส่งเป็นรายวันวันละ 200 บาท โดยจะมีชายวัยรุ่น 2 คน คือ นายเหลียง กับนายมอญ ขับขี่รถจักรยานยนต์มาเก็บเงินตนเป็นประจำทุกวัน ซึ่งตนก็จ่ายไปประมาณ 1,800 บาทแล้ว แต่ช่วงระยะหลังเงินขาดมือเพราะขายของก็ไม่ดี จึงขาดส่งประมาณ 2-3 วัน แต่ก็ต่อรองกันเป็นที่เรียบร้อยว่า จะขอลดจำนวนเงินที่ต้องส่งทุกวัน เหลือวันละ 100 บาท ซึ่งเจ้าหนี้ก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด
นางอารีย์ กล่าวต่อว่า จนกระทั่งวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.30 น. ขณะที่ตนกำลังอาบน้ำอยู่ ก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 20-30 คน มาเคาะประตูเรียก แต่ตนยังไม่ทันจะเดินไปเปิดประตูให้ กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวก็พังประตูเข้ามา จากนั้นชายคนหนึ่งจำได้ว่าสวมเสื้อแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ สวมรองเท้าผ้าใบสีดำ ตรงเข้ามาเตะเข้าที่ท้องตนจนล้มลง จากนั้นก็มีชายอีกคนหนึ่งเอามีดดาบมาตีเข้าที่ใบหน้า
“ฉันยกมือไหว้ร้องขอชีวิตต่างๆ นานาว่าอย่าทำฉัน อย่าทำฉัน แต่พวกมันก็ไม่ฟัง กลับเอาเท้าเหยียบที่หัวจนหัวติดกับตู้เย็น ก่อนจะรุมเตะรุมตีสารพัด สุดท้ายถูกไม้เบสบอลตีเข้าที่หน้าจนสลบไม่รู้เรื่องอะไรอีกเลย จนมาฟื้นอีกทีก็อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว” นางอารีย์เล่าเหตุการณ์ให้ฟังด้วยความหวาดผวา
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า การให้กู้ยืมโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดนั้นถือเป็นความผิด มีโทษถึงจำคุก แต่กรณีนี้มีการใช้กำลังบุกรุกเข้ามาทำร้ายร่างกายถึงในบ้าน เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายบ้านเมือง ซึ่งหลังทราบเรื่องได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วีระ จิรวีระ ผกก.สน.เตาปูน ดำเนินคดีกับกลุ่มขบวนการทวงหนี้โหดเหล่านี้โดยเด็ดขาด หากมีใครร่วมกันทำร้ายร่างกายหรือบุกรุกให้ติดตามตัวมาดำเนินคดีให้หมด ขณะเดียวกันให้จัดกำลังตำรวจไปดูแลคุ้มครองความปลอดภัย นางอารีย์ ด้วย
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสลดหดหู่ใจเป็นเรื่องที่ประชาชนที่ยากจนมีความจำเป็นต้องกู้หนี้ยืมสินเอาเงินมาใช้ในการดำรงชีพ ต้องยอมถูกขูดรีดจากนายทุนที่หากินจากความยากจนของพี่น้องประชาชน ด้วยการเรียกดอกเบี้ยแพงๆ หากไม่มีก็ถูกขบวนการทวงหนี้ข่มขู่ทำร้าย โดยเฉพาะกรณีนี้ผู้เสียหายที่ถูกทำร้ายเป็นผู้หญิงด้วย ถือเป็นการกระทำที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง” รอง ผบ.ตร. กล่าว และว่า ผกก.ท้องที่ต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาดกับนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบที่มีการเรียกดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด ซึ่งหากประชาชนที่กู้หนี้ยืมสิน โดยมีการเรียกอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายก็ให้แจ้งตำรวจท้องที่ได้ทันที
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่มีนายตำรวจยศ ร.ต.ท.คนหนึ่ง อยู่ที่ สน.สุวินทวงศ์ มาข่มขู่ให้ถอนแจ้งความนั้น ถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องเพราะตนเองเป็นตำรวจมีหน้าที่ดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย ไม่ใช่มาข่มขู่ให้ละเว้นไม่ให้มีการดำเนินการตามกฎหมาย ตนจึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ณธนนต์ สิงหรา ณ อยุธยา ผบก.น.3 ตั้งกรรมการขึ้นมาสืบสวนข้อเท็จจริง คาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 7วัน หากพบว่ามีการกระทำผิดจริงก็ให้ดำเนินการทางวินัยอย่างเฉียบขาดต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังรับเรื่องร้องเรียน พล.ต.อ.จงรัก ได้ควักกระเป๋ามอบเงินสด จำนวน 2 พันบาท ให้กับนางอารีย์ เพื่อให้เป็นทุนในการค้าขายต่อไป
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวถึงกรณีคนร้ายกระชากสร้อย และใช้มีดแทง ด.ญ.พัชรี ภลารัตนวัฒน์ หรือ “น้องฟ้าใส” อายุ 2 ปี 8 เดือน ได้รับบาดเจ็บสาหัส นั้น ตนได้กำชับ พ.ต.อ.สุรชัย เจ็ดพี่น้องร่วมใจ ผกก.สน.ภาษีเจริญ ให้เร่งสืบสวนติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว คาดว่าคนร้ายยังอยู่ละแวกดังกล่าว
ในวันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. กล่าวถึงกรณีที่นางอารีย์ เจริญมงคล อายุ 53 ปี แม่ค้าขายข้าวแกง ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 30 คนรุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อคืนวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา และนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล และมีตำรวจยศ ร.ต.ต.อ้างว่าอยู่ สน.สุวินทวงศ์ พยายามขอไกล่เกลี่ยไม่ให้เอาเรื่อง โดยพร้อมจะชดใช้ค่าเสียหาย และค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมดนั้น พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล รอง ผบช.น.ติดตามตรวจสอบว่าตำรวจนายดังกล่าวมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ หากพบก็ให้ดำเนินการทั้งวินัย และอาญา อย่างเฉีบขาดโดยทันที นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ลิขิต จัดทำแฟ้มผู้มีอิทธิพล ในพื้นที่นครบาลทั้งหมด และดำเนินการอย่างเด็ดขาด
แก๊งทวงหนี้โคตรโหด รุมกระทืบ-ไม้เบสบอลฟาดหน้าแม่ค้าข้าวแกงวัย 53 เกือบตาย
วันนี้ (27 ก.พ.) เมื่อเวลา 12.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นางอารีย์ เจริญมงคล อายุ 53 ปี อาชีพแม่ค้าขายข้าวแกง พร้อมด้วยนายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.เพื่อขอความเป็นธรรม กรณีถูกกลุ่มวัยรุ่นแก๊งทวงหนี้โหดประมาณ 30 คน บุกเข้าไปทำร้ายร่างกายถึงในบ้านพัก จนได้รับบาดเจ็บสาหัสเหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา
นางอารีย์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนไปกู้เงินนอกระบบมาจำนวน 4,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 และต้องส่งเป็นรายวันวันละ 200 บาท โดยจะมีชายวัยรุ่น 2 คน คือ นายเหลียง กับนายมอญ ขับขี่รถจักรยานยนต์มาเก็บเงินตนเป็นประจำทุกวัน ซึ่งตนก็จ่ายไปประมาณ 1,800 บาทแล้ว แต่ช่วงระยะหลังเงินขาดมือเพราะขายของก็ไม่ดี จึงขาดส่งประมาณ 2-3 วัน แต่ก็ต่อรองกันเป็นที่เรียบร้อยว่า จะขอลดจำนวนเงินที่ต้องส่งทุกวัน เหลือวันละ 100 บาท ซึ่งเจ้าหนี้ก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด
นางอารีย์ กล่าวต่อว่า จนกระทั่งวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.30 น. ขณะที่ตนกำลังอาบน้ำอยู่ ก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 20-30 คน มาเคาะประตูเรียก แต่ตนยังไม่ทันจะเดินไปเปิดประตูให้ กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวก็พังประตูเข้ามา จากนั้นชายคนหนึ่งจำได้ว่าสวมเสื้อแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ สวมรองเท้าผ้าใบสีดำ ตรงเข้ามาเตะเข้าที่ท้องตนจนล้มลง จากนั้นก็มีชายอีกคนหนึ่งเอามีดดาบมาตีเข้าที่ใบหน้า
“ฉันยกมือไหว้ร้องขอชีวิตต่างๆ นานาว่าอย่าทำฉัน อย่าทำฉัน แต่พวกมันก็ไม่ฟัง กลับเอาเท้าเหยียบที่หัวจนหัวติดกับตู้เย็น ก่อนจะรุมเตะรุมตีสารพัด สุดท้ายถูกไม้เบสบอลตีเข้าที่หน้าจนสลบไม่รู้เรื่องอะไรอีกเลย จนมาฟื้นอีกทีก็อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว” นางอารีย์เล่าเหตุการณ์ให้ฟังด้วยความหวาดผวา
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า การให้กู้ยืมโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดนั้นถือเป็นความผิด มีโทษถึงจำคุก แต่กรณีนี้มีการใช้กำลังบุกรุกเข้ามาทำร้ายร่างกายถึงในบ้าน เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายบ้านเมือง ซึ่งหลังทราบเรื่องได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วีระ จิรวีระ ผกก.สน.เตาปูน ดำเนินคดีกับกลุ่มขบวนการทวงหนี้โหดเหล่านี้โดยเด็ดขาด หากมีใครร่วมกันทำร้ายร่างกายหรือบุกรุกให้ติดตามตัวมาดำเนินคดีให้หมด ขณะเดียวกันให้จัดกำลังตำรวจไปดูแลคุ้มครองความปลอดภัย นางอารีย์ ด้วย
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสลดหดหู่ใจเป็นเรื่องที่ประชาชนที่ยากจนมีความจำเป็นต้องกู้หนี้ยืมสินเอาเงินมาใช้ในการดำรงชีพ ต้องยอมถูกขูดรีดจากนายทุนที่หากินจากความยากจนของพี่น้องประชาชน ด้วยการเรียกดอกเบี้ยแพงๆ หากไม่มีก็ถูกขบวนการทวงหนี้ข่มขู่ทำร้าย โดยเฉพาะกรณีนี้ผู้เสียหายที่ถูกทำร้ายเป็นผู้หญิงด้วย ถือเป็นการกระทำที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง” รอง ผบ.ตร. กล่าว และว่า ผกก.ท้องที่ต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาดกับนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบที่มีการเรียกดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด ซึ่งหากประชาชนที่กู้หนี้ยืมสิน โดยมีการเรียกอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายก็ให้แจ้งตำรวจท้องที่ได้ทันที
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่มีนายตำรวจยศ ร.ต.ท.คนหนึ่ง อยู่ที่ สน.สุวินทวงศ์ มาข่มขู่ให้ถอนแจ้งความนั้น ถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องเพราะตนเองเป็นตำรวจมีหน้าที่ดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย ไม่ใช่มาข่มขู่ให้ละเว้นไม่ให้มีการดำเนินการตามกฎหมาย ตนจึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ณธนนต์ สิงหรา ณ อยุธยา ผบก.น.3 ตั้งกรรมการขึ้นมาสืบสวนข้อเท็จจริง คาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 7วัน หากพบว่ามีการกระทำผิดจริงก็ให้ดำเนินการทางวินัยอย่างเฉียบขาดต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังรับเรื่องร้องเรียน พล.ต.อ.จงรัก ได้ควักกระเป๋ามอบเงินสด จำนวน 2 พันบาท ให้กับนางอารีย์ เพื่อให้เป็นทุนในการค้าขายต่อไป
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวถึงกรณีคนร้ายกระชากสร้อย และใช้มีดแทง ด.ญ.พัชรี ภลารัตนวัฒน์ หรือ “น้องฟ้าใส” อายุ 2 ปี 8 เดือน ได้รับบาดเจ็บสาหัส นั้น ตนได้กำชับ พ.ต.อ.สุรชัย เจ็ดพี่น้องร่วมใจ ผกก.สน.ภาษีเจริญ ให้เร่งสืบสวนติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว คาดว่าคนร้ายยังอยู่ละแวกดังกล่าว
ในวันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. กล่าวถึงกรณีที่นางอารีย์ เจริญมงคล อายุ 53 ปี แม่ค้าขายข้าวแกง ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 30 คนรุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อคืนวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา และนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล และมีตำรวจยศ ร.ต.ต.อ้างว่าอยู่ สน.สุวินทวงศ์ พยายามขอไกล่เกลี่ยไม่ให้เอาเรื่อง โดยพร้อมจะชดใช้ค่าเสียหาย และค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมดนั้น พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล รอง ผบช.น.ติดตามตรวจสอบว่าตำรวจนายดังกล่าวมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ หากพบก็ให้ดำเนินการทั้งวินัย และอาญา อย่างเฉีบขาดโดยทันที นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ลิขิต จัดทำแฟ้มผู้มีอิทธิพล ในพื้นที่นครบาลทั้งหมด และดำเนินการอย่างเด็ดขาด
แก๊งทวงหนี้โคตรโหด รุมกระทืบ-ไม้เบสบอลฟาดหน้าแม่ค้าข้าวแกงวัย 53 เกือบตาย
