xs
xsm
sm
md
lg

เปิดอกหนุ่มใหญ่เมืองกว๊านฯสายเลือดอีสาน จุดประกาย พธม.พะเยา-ต้านระบอบ“ทักษิณ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยงยุทธ สายสูงเนิน หนึ่งในคณะผู้ก่อตั้ง พธม.เมืองกว๊านพะเยา
พะเยา – เปิดอกหนึ่งในคณะผู้ก่อการ พธม.พะเยา ถิ่น “ทรท.-พปช.-พท.” ลูกเมืองกว๊านฯ สายเลือดอีสาน ที่เปิดหน้านำทีมวางหรีดหน้าจวนผู้ว่าฯ ประท้วงคำสั่งห้ามเคเบิลฯถ่ายทอดสัญญาณ ASTV ก่อนถูกปาระเบิดบ้านในอีกไม่กี่วันต่อมา ย้ำพร้อมเข้าร่วมชุมนุมเพื่อส่วนรวมทุกเมื่อ

ขณะที่สภาพความเป็นจริงในพื้นที่จังหวัดพะเยา ล้วนแต่เป็นฐานเสียงของพรรคไทยรักไทย – พปช. ที่แปรสภาพเป็นพรรคเพื่อไทย ในปัจจุบันเต็มพื้นที่ ทั้งระดับ ส.ส. – อบจ. – เทศบาล – อบต. กล่าวได้ว่า เกือบทั้งหมดเป็นคนในเครือข่ายของพรรคเพื่อไทย

ดูได้จากมวลชนในพื้นที่พะเยา ก่อนหน้านี้ก็เคยเป็นกำลังหลักส่วนหนึ่งของ “ม็อบอีแต๋น” ยุคพรรคไทยรักไทย ขณะที่ในยุค “คนเสื้อแดง” ก็ถือได้ว่า การเคลื่อนไหวจากพื้นที่นี้อยู่ภายใต้การคุมเกมของ “วิสุทธิ์ ไชยณรุณ” ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย ซึ่งจะมีมือทำงานหลักหลากหลาย เช่น มนัส เวียงลอ ประธานเครือข่ายเสื้อแดงอีสาน-ล้านนา จังหวัดพะเยา , ผู้ประสานงานองค์กรภาคประชาชนพะเยา และผู้ประสานงานองค์กร ชรบ.พะเยา ,ภูมิ เวชการ คนสนิทของนายวิสุทธิ์ และทินกร ปรางค์สุวรรณ เลขานุการนายก อบต.ลอ อ.จุน จ.พะเยา
อย่างไรก็ตามท่ามกลางคนเสื้อแดง เมืองกว๊านพะเยา ก็มี “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ; พธม.” เบ่งบานเช่นกัน

เหตุการณ์ที่ทำให้เพื่อนพ้องน้องพี่ พธม.ทั่วประเทศ รับรู้ว่า ที่นี่ก็มีพันธมิตรฯ ซึ่งมีอุดมการณ์เดียวกันก็คือ กรณี 18 มิถุนายน 2551 พันธมิตรฯพะเยา จำนวน 20 กว่าคน นำโดย “ยงยุทธ สายสูงเนิน” ลูกอีสานที่ครอบครัวพาย้ายมาปักหลักที่พะเยาตั้งแต่อายุได้ 2 ขวบ เปิดหน้าร่วมวางหรีดประท้วง น.ส.เรืองวรรณ บัวนุช ผู้ว่าฯพะเยา หลัง “พะเยาเคเบิลทีวี” ถูกกดดันให้งดถ่ายทอดเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงของ พธม.ทั่วประเทศที่กรุงเทพฯ ผ่านสัญญาณ ASTV

21 มิถุนายน 2551 มีเหตุการณ์มือดีปาระเบิดใส่บ้านบ้านเลขที่ 70/1 ถ.สุสาน ต.เวียง อ.เมือง จ.พะเยา ซึ่งเป็นบ้านของ “ยงยุทธ” ขณะที่มีภรรยา และลูกอีก 2 คน อาศัยอยู่ภายในบ้าน ขณะที่เขาออกเดินทางมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ร่วมชุมนุมกับ พธม.ทั่วประเทศตั้งแต่ 17 มิถุนายน 2551 แล้ว

“พันธมิตรฯพะเยา ยังมีอีกเยอะ โดยเฉพาะกลุ่มลูกหลานชาวไทยเชื้อสายจีนในตัวเมืองพะเยา ส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นผู้ที่มีอุดมการณ์เดียวกันกับ พธม.ทั้งสิ้น การเคลื่อนไหวที่ผ่านมา ก็มีผู้ที่เดินทางไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง ที่ไปไม่ได้ก็ส่งเงินไปช่วยตลอด” ยงยุทธ กล่าวย้ำกับ “ASTVผู้จัดการรายวัน”

ส่วนตัวตนของเขา ที่ถือได้ว่า เป็นหนึ่งในคณะผู้ก่อการ พธม.เมืองกว๊านพะเยา ปัจจุบัน อายุ 50 ปี เกิดเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2502 ที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น แม่เป็นคนจังหวัดขอนแก่น ส่วนพ่อเป็นคนโคราช พ่อแม่มีลูกด้วยกันทั้งหมด 6 คน เขาเป็นลูกคนที่ 4 แล้วมาเติบโตที่พะเยา โดยได้ย้ายตามพ่อ - แม่ มาอยู่ที่ อ.จุน จ.พะเยา เมื่อพ.ศ.2505 ขณะที่อายุได้ 2 ขวบ จากนั้นได้เข้าเรียนระดับประถมที่โรงเรียน ใน อ.จุน และเรียนต่อด้านช่าง ที่ วิทยาลัยเทคนิคพะเยา สาขาช่างยนต์ ใน อ.เมือง จ.พะเยา
“ยงยุทธ สายสูงเนิน” ร่วมวางหรีดประท้วง น.ส.เรืองวรรณ บัวนุช ผู้ว่าฯพะเยา หลัง “พะเยาเคเบิลทีวี” ถูกกดดันให้งดถ่ายทอดเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงของ พธม.ทั่วประเทศที่กรุงเทพฯ ผ่านสัญญาณ ASTV
หลังจากเรียนจบ ก็ทำงานเป็นช่างซ่อมอยู่ที่ร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ในตัวอำเภอเมืองจังหวัดพะเยา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2529 - 2539 จากนั้นก็ได้เข้าทำงานที่บริษัทโตโยต้า พะเยา เมื่อปี พ.ศ.2540 ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายขาย และสุดท้ายตำแหน่งผู้จัดการบริษัทก่อนลาออกมาเป็นผู้จัดการบริษัท แดวู มอเตอร์ พะเยา และผู้จัดการบริษัท มิตซูบิชิ พะเยา ตามลำดับ ปัจจุบัน ทำงานเป็นพนักงานสินเชื่อบริษัท อยุธยาออโต้ลีค จำกัด(มหาชน) ในจังหวัดเชียงราย ดูแลพื้นที่ จ.เชียงราย - พะเยา สมรสกับ “อนงค์ สายสูงเนิน” มีบุตรสาวด้วยกัน 2 คน

“ยงยุทธ”บอกว่า สมัยที่เรียนอยู่ที่วิทยาลัยเทคนิคพะเยา เคยประท้วงอาจารย์โดยการเป็นแกนนำนักศึกษา ประท้วงอาจารย์ไม่เข้าเรียนมาแล้ว เนื่องจากอาจารย์หัวหน้าแผนก ไม่ยอมให้จัดงานทำบุญแผนก ซึ่งตนเองเห็นว่าไม่ถูกต้อง ในที่สุดอาจารย์ก็ต้องยอมให้จัด

ส่วนงานด้านสังคมที่ผ่านมา เคยเป็นแกนนำในการต่อต้านโครงการการถมกว๊านพะเยา ของเทศบาลเมืองพะเยา เนื่องจากเห็นว่า การดำเนินการตามนโยบายนายกเทศมนตรีเมืองพะเยาในสมัยนั้น เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เพราะกว๊านพะเยา เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ การกระทำใด ๆ ต้องมีกระบวนการขออนุญาตที่ถูกต้อง ก็เป็นเหตุการณ์หนึ่งที่เป็นแกนนำร่วมกับชุมชนในการต่อต้านจนทำให้โครงการดังกล่าวยุติไป และอีกหลายเรื่องที่เป็นแกนนำในการต่อต้าน ทั้งต่อทางราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จนประสบความสำเร็จ

ที่สำคัญ ที่ทำให้เป็นที่รู้จักของคนในจังหวัดพะเยา และกลุ่มพันธมิตร ฯ หรือแม้กระทั่งประชาชนที่ร่วมอุดมการณ์ในการต่อต้านระบอบทักษิณ ก็คือเหตุการณ์วางหรีดประท้วงผู้ว่าฯพะเยา ดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าการกระทำของ ผู้ว่าฯ ที่ขอให้พะเยาเคเบิลทีวี งดถ่ายทอดสัญญาณการประท้วงขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิด ของกลุ่ม พธม.ที่กรุงเทพฯ เป็นการปิดหูปิดตาประชาชน ไม่ให้รับรู้ข่าวสาร พร้อมกับเข้าแจ้งความดำเนินคดี กับผู้ว่าฯพะเยา ต่อ ตำรวจ สภ.เมืองพะเยา ในข้อหา ปิดกั้นข้อมูลข่าวสารประชาชน จนกระทั่งมีเหตุการณ์ถูกมือดีปาระเบิดใส่บ้านของตนเองในอีกไม่กี่วันต่อมา

เขาบอกว่า ตอนนี้เขาพอจะทราบแล้วว่า ใครเป็นคนปาระเบิดบ้านครั้งนั้น แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการกระทำของฝ่ายราชการ หรือคู่ความของตน คือผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา อย่างแน่นอน เนื่องจากตนเองทราบดีว่า เป็นฝีมือใครแต่ไม่ขอเปิดเผยในที่นี้ แต่เชื่อว่าเป็นเรื่องความโกรธแค้นส่วนตัวที่ผ่านมามากกว่า จนในที่สุดพะเยาเคเบิลทีวี กลับมาถ่ายทอดสัญญาณตามปกติ จึงถอนแจ้งความผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา

“ยงยุทธ” ยืนยันว่า โดยส่วนตัวแล้วไม่ได้โกรธเคืองผู้ว่าฯคนนี้แต่อย่างใด ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้หลายคนรู้จักตนเองโดยเฉพาะพี่น้องพันธมิตรฯที่ติดตามข่าวการนำพวงหรีดไปวางหน้าจวนผู้ว่าฯพะเยาตามสื่อต่างๆ หรือแม้กระทั่งเว็บไซต์ ผู้จัดการออนไลน์เองก็ตาม

พี่น้องพันธมิตรฯ ที่ร่วมกันเดินทางไปประท้วงที่กรุงเทพฯ บอกว่า “นี่เหรอคุณยงยุทธ ยอดจริงๆ เคยเห็นภาพข่าวในเว็บไซต์ ผู้จัดการออนไลน์ วันนี้เห็นตัวจริง” ก็มีการจับไม้จับมือแสดงความยินดีด้วย ที่มีความหาญกล้า คือกล้าที่จะต่อสู้อำนาจรัฐบนความไม่ถูกต้อง

“ยงยุทธ” กล่าวถึงการเข้าร่วมชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณ ว่า ที่ผ่านมาได้เข้าร่วมประท้วงหลายครั้ง จนถึงขณะนี้ก็ยังคงอุดมการณ์เดิมไว้ไม่เปลี่ยนแปลง มีความรักความถูกต้องหากมีการประท้วงขับไล่รัฐบาลที่มาจากระบอบทักษิณอีก ก็ยินดีที่จะเข้าร่วม แต่ขอพิจารณานิดหนึ่งว่า การประท้วงดังกล่าวต้องเพื่อประโยชน์ส่วนรวมเท่านั้น มิใช่ประโยชน์ของผู้หนึ่งผู้ใด

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเชื่อว่า จ.พะเยา เอง มีพันธมิตรฯที่เข้าร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯไม่น้อยกว่า 200 คน เป็นอย่างต่ำ และเชื่อว่ามีอีกมากที่ไม่เปิดเผยตัว หากไม่ไปด้วยตัวเอง ก็มีการสนับสนุนทุนทรัพย์ในการชุมนุมขับไล่เมื่อต้องการหรือมีการร้องขอ

เมื่อถูกถามว่า ในอนาคตอันใกล้นี้จะมีการลงเล่นการเมือง ทั้งในระดับชาติ และท้องถิ่น หรือไม่ “ยงยุทธ” ตอบว่า “ไม่อย่างแน่นอน แต่ก็มีผู้ใหญ่ในจังหวัด มาทาบทามให้ลงสมัคร ส.ว. เหมือนกัน แต่ก็ไม่รับ เนื่องจากไม่อยากสร้างศัตรู เพราะทุกวันนี้ก็มีหลายคนที่ไม่ค่อยชอบตนเอง เนื่องจากความที่เป็นคนตรงและรักความถูกต้อง”

ส่วนรัฐบาลชุดปัจจุบันที่มี “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ที่กำลังนำพาประเทศฝ่าวิกฤตทางการเมืองอยู่ในขณะนี้ เขาให้ความเห็นว่า ก็ให้เวลาทำงานก่อน แต่เชื่อว่าน่าจะบริหารประเทศไปรอด แต่จะยาวนานแค่ไหนนั้นไม่ทราบ เนื่องจากต้องทำงานท่ามกลางสถานการณ์ที่ประชาชนในบ้านเมือง มีความคิดเห็นแบ่งแยกเป็น 2 ฝ่าย โดยเฉพาะกลุ่ม นปช.ที่กำลังต่อต้านการบริหารประเทศของนายอภิสิทธิ์ อย่างหนักอยู่ในขณะนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น