หนุ่มพนักงานบริษัทร้องขอความเป็นธรรมต่อสมาคมผู้สื่อข่าว-ช่างภาพอาชญากรรม หลังผู้เป็นแม่ถูกแก๊งทวงหนี้ยกพวก 30 ตัวบุกพังประตูบ้าน โชว์พฤติกรรมถ่อยสารพัด ทั้งเตะท้อง รุมกระทืบ เหยียบหัว เอาไม้ฟาดหน้าจนสลบคาบ้าน เหตุแค่ไปยืมกู้เงินนอกระบบ 4,000 บาท คิดดอกเบี้ยสุดโหดร้อยละ 20 เหยื่อจ่ายคืนมาตลอด แต่ช่วงหลังขายข้าวแกงไม่ดี ขาดส่งแค่ 2-3 วัน ขอผัดผ่อนแล้วแต่ยังถูกบุกมารุมจนปางตาย
เมื่อเวลา 16.00 น.วานนี้ (26 ก.พ.) นายพลพจน์ สุขสำราญ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133/17 ตรอกลิง ถนนเตชะวณิชย์ แขวงและเขตบางซื่อ พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง เดินทางเข้าร้องเรียนนายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย หลังนางอารีย์ เจริญมงคล อายุ 53 ปี แม่ของตนอาชีพแม่ค้าขายข้าวแกง ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 30 คนรุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อคืนวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล
ต่อมานายไพโรจน์ เทศนิยม ได้เดินทางมาเยี่ยมนางอารีย์ เจริญมงคล ที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล ชั้น 9 ห้อง 909 พร้อมกับประสานให้ พ.ต.ท.ชยุธ มารยาทตร์ รอง ผกก.สส.สน.สามเสน ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง เพราะเนื่องจากกลัวกลุ่มคนร้ายย้อนกับมาทำร้ายร่างกายอีกครั้ง
ทั้งนี้ นางอารีย์เปิดเผยถึงสาเหตุที่ถูกรุมทำร้ายว่า ก่อนหน้านี้ตนไปกู้เงินนอกระบบมาจำนวน 4,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 และต้องส่งเป็นรายวันวันละ 200 บาท โดยจะมีชายวัยรุ่น 2 คน คือ นายเหลียง กับนายมอญ ขับขี่รถจักรยานยนต์มาเก็บเงินตนเป็นประจำทุกวัน ซึ่งตนก็จ่ายไปประมาณ 1,800 บาทแล้ว แต่ช่วงระยะหลังเงินขาดมือเพราะขายของก็ไม่ดี จึงขาดส่งประมาณ 2-3 วัน แต่ก็ต่อรองกันเป็นที่เรียบร้อยว่า จะขอลดจำนวนเงินที่ต้องส่งทุกวัน เหลือวันละ 100 บาท ซึ่งเจ้าหนี้ก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด
นางอารีย์ กล่าวต่อว่า จนกระทั่งวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.30 น. ขณะที่ตนกำลังอาบน้ำอยู่ ก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 20-30 คน มาเคาะประตูเรียก แต่ตนยังไม่ทันจะเดินไปเปิดประตูให้ กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวก็พังประตูเข้ามา จากนั้นชายคนหนึ่งจำได้ว่า สวมเสื้อแขวนยาวสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ สวมรองเท้าผ้าใบสีดำ ก็ตรงเข้ามาเตะเข้าที่ท้องตนจนล้มลง จากนั้นก็มีชายอีกคนหนึ่งเอามีดดาบมาตีเข้าที่ใบหน้า
“ฉันยกมือไหว้ร้องขอชีวิตต่างๆ นานาว่าอย่าทำฉัน อย่าทำฉัน แต่พวกมันก็ไม่ฟัง กลับเอาเท้าเหยียบที่หัวจนหัวติดกับตู้เย็น ก่อนจะรุมเตะรุมตีสารพัด สุดท้ายถูกไม้เบสบอลตีเข้าที่หน้าจนสลบไม่รู้เรื่องอะไรอีกเลย จนมาฟื้นอีกทีก็อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว” นางอารีย์ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังด้วยความหวาดผวา
ด้าน นางวราพร กลั่นกลิ่นหอม อายุ 17 ปี หลานสาวนางอารีย์กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนอยู่บริเวณชั้น 2 ของบ้าน ส่วนนางอารีย์ ป้าของตนกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องชั้นล่าง จากนั้นก็มีกลุ่มคนร้ายบุกเข้ามาพังประตูห้องป้า ตนก็ร้องขอความช่วยเหลือกับชาวบ้านละแวกนั้น แต่กลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนจ่อขึ้นมาทางตนแล้วตะโกนใส่ว่าอย่ามายุ่ง จากนั้นคนร้ายก็เข้าไปรุมทำร้ายนางอารีย์จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ระหว่างนั้นนายชัยยศ เทียมมณี อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านก็พยายามจะเข้ามาช่วย แต่ถูกกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธมีดฟันเข้าที่ศีรษะไป 2 แผล ที่ข้อศอกอีก 1 แผล กระทั่งมีตำรวจ สน.เตาปูน เข้ามาเพื่อจะระงับเหตุ แต่กลุ่มคนร้ายก็แยกย้ายกันหลบหนี โดยถูกตำรวจจับได้ 4 คน
ขณะที่นายพลพจน์ สุขสำราญ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุตนก็รีบพาแม่ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล โดยเบื้องต้นแพทย์ระบุว่ามีอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ ฟกช้ำที่ใบหน้า และต้องรอดูอาการทางสมองว่าได้รับความกระทบกระเทือนหรือไม่ จากนั้นวันรุ่งขึ้น (25 ก.พ.) เวลา 12.00 น.ก็มีตำรวจยศ ร.ต.ต. อ้างว่าอยู่ สน.สุวินทวงศ์ แต่งตัวเครื่องแบบเต็มยศ มาหาตนที่บ้าน เพื่อบอกว่าชายฉกรรจ์ที่ทำร้ายแม่ตน และถูกจับไป 4 คนนั้นเป็นลูกน้องของตัวเอง อีกทั้งยังพยายามขอไกล่เกลี่ยไม่ให้ตนเอาเรื่อง โดยพร้อมจะชดใช้ค่าเสียหาย และค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด แต่ตนไม่ได้ตกลงด้วยโดยบอกไปว่าต้องปรึกษากับญาติก่อน ทำให้ตำรวจคนดังกล่าวไม่พอใจ เดินทางกลับออกไปทัที
ส่วนนายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมฯ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (27 ก.พ.) เวลา 12.30 น. จะพาผู้เสียหายเข้าพบ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรม เนื่องจากคดีดังกล่าวมีข้าราชการตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง อีกทั้งจะให้เร่งหาผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป