เย้ยกฎหมาย 2 ชายฉกรรจ์สวมหมวกไหมพรมบุกยิง-ระเบิดโชว์รูมรถหรู ย่านปากซอยลำสาลี พบ กระจกร้านแตกละเอียด ปลอกกระสุน 9 มม.หล่นเพียบ รปภ.ที่เห็นเหตุการณ์ เผย คนร้ายระดมยิงใส่โชว์รูมไม่ยั้ง พบ ก่อนหน้ามีแก๊งทวงหนี้พกปืนข่มขู่พนักงาน โดยคดีอยู่ระหว่างดำเนินการ ก่อนที่จะมาเกิดเหตุยิงถล่มในครั้งนี้
วันนี้ (18 ก.พ.) เมื่อเวลา 05.30 น.พ.ต.ท.น้ำเพชร ทรัพย์อุดม พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ประเวศ รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่บริษัท นิชคาร์ จำกัด ปากซอยลำสาลี 1 ถนนศรีนครินทร์ แขวงและเขตประเวศ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.นิพนธ์ ทองแสงบุญมา รอง ผกก.สส.สน.ประเวศ พ.ต.ท.เดโช โสสุวรรณากุล สว.สส.สน.ประเวศ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.ตปพ.บช.น.
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารชั้นเดียวเป็นโชว์รูมรถยุโรปราคาแพง เจ้าหน้าที่พบกระจกหน้าโชว์รูมดังกล่าว ซึ่งสูงประมาณ 2 เมตร กว้างประมาณ 1.5 เมตร แตกละเอียดไปจำนวน 2 บาน โดยบานแรกอยู่ใกล้ประตูทางเข้า อีกบานอยู่มุมขวามือใกล้กับศาลพระพิฆเนศ และมีรถสปอร์ตยี่ห้อเฟอร์รารี่ สีแดง กับ รถสปอร์ตยี่ห้อลัมบอร์กีนี สีเหลือง ราคาคันละประมาณ 20 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังพบหลุมขนาดเล็ก และปลอกกระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 12 ปลอก ตกอยู่บริเวณหน้าโชว์รูมดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบปากคำ นายบุญเลิศ บินอาหมัด อายุ 34 ปี รปภ.ของโชว์รูมดังกล่าว ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนกำลังนั่งเขียนรายงานอยู่บริเวณหน้าโชว์รูม จากนั้นก็มีคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ 2 คน สวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า ตรงเข้ามาหาตน พร้อมใช้อาวุธปืนกดหัวตนบังคับให้หมอบลงกับพื้นทันที จากนั้นคนร้ายทั้งสองก็ใช้ปืนระดมยิงใส่กระจกโชว์รูมหลายสิบนัด นอกจากนี้ ยังได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นด้วย แต่ด้วยความกลัว ตนเลยไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง โดยหลังจากนั้น คนร้ายทั้งสองคนก็หลบหนีออกไปโดยไม่ทราบว่าใช้รถอะไรเป็นพาหนะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีชายฉกรรจ์ 5 คน ซึ่งเป็นแก๊งทวงหนี้ ได้พกปืนเข้ามาข่มขู่พนักงานโชว์รูมดังกล่าวมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รุดไปตรวจสอบพร้อมจับกุมชายฉกรรจ์ดังกล่าวเอาไว้ได้ทั้งหมด ก่อนแจ้งข้อหาปล้นทรัพย์ ซ่องโจร และร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดี จนกระทั่งเมื่อวานนี้ มีการโทรศัพท์มาข่มขู่ที่โชว์รูมดังกล่าว 2-3 ครั้ง ก่อนจะเกิดเหตุยิงถล่มโชว์รูมในช่วงเช้ามืดวันนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวไปถึงที่เกิดเหตุ ก็ได้พบว่า พนักงานกำลังกวาดเศษกระจกบริเวณหน้าโชว์รูมอยู่ และเมื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริง ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น นอกจากนั้น มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของโชว์รูมได้โทรศัพท์มาต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า ไม่ต้องการให้เป็นข่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อคืนวันที่ 22 ม.ค.ได้เกิดเหตุในลักษณะเดียวกัน โดยคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถล่มใส่โชว์รูมรถยนต์บริษัท เอส.อี.ซี.ออโต้ เซลส์ แอนด์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เลขที่ 115 ถนนพระราม 9 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม.ราว 10 นัด ส่งผลให้กระจกโชว์รูมแตกเป็นรูได้รับความเสียหาย ซึ่งในครั้งนั้น มีรายงานว่า โชว์รูมรถยนต์ดังกล่าวมีประวัตินำรถหรูเข้ามาจากต่างประเทศ เคยมีประวัติในเรื่องการซื้อขายใบหุ้น และปัจจุบันมีรายงานว่า กำลังทำเรื่องประมูลรถเมล์ของรัฐบาลจำนวนถึง 60 คัน รวมทั้งยังมีปัญหาขัดแย้งกับบริษัทอื่นๆ อีกด้วย จนกระทั่งมาเกิดเหตุครั้งนี้ที่ โชว์รูม บริษัท นิชคาร์ จำกัด ซึ่งเป็นโชว์รูมที่นำเข้ารถหรูเช่นเดียวกัน โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า เหตุการณ์ทั้ง 2 สถานที่ที่เกิดขึ้น เจ้าของบริษัททั้ง 2 แห่ง ไม่ได้ให้ความร่วมมือในการให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกันเท่าที่ควร
ตร.ยังมึนไม่ทราบสาเหตุคนร้ายรัวยิงโชว์รูมรถยนต์กลางกรุง!
ซัลโว 10 นัด! ถล่มโชว์รูม “เอส.อี.ซี.” พระราม 9
วันนี้ (18 ก.พ.) เมื่อเวลา 05.30 น.พ.ต.ท.น้ำเพชร ทรัพย์อุดม พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ประเวศ รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่บริษัท นิชคาร์ จำกัด ปากซอยลำสาลี 1 ถนนศรีนครินทร์ แขวงและเขตประเวศ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.นิพนธ์ ทองแสงบุญมา รอง ผกก.สส.สน.ประเวศ พ.ต.ท.เดโช โสสุวรรณากุล สว.สส.สน.ประเวศ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.ตปพ.บช.น.
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารชั้นเดียวเป็นโชว์รูมรถยุโรปราคาแพง เจ้าหน้าที่พบกระจกหน้าโชว์รูมดังกล่าว ซึ่งสูงประมาณ 2 เมตร กว้างประมาณ 1.5 เมตร แตกละเอียดไปจำนวน 2 บาน โดยบานแรกอยู่ใกล้ประตูทางเข้า อีกบานอยู่มุมขวามือใกล้กับศาลพระพิฆเนศ และมีรถสปอร์ตยี่ห้อเฟอร์รารี่ สีแดง กับ รถสปอร์ตยี่ห้อลัมบอร์กีนี สีเหลือง ราคาคันละประมาณ 20 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังพบหลุมขนาดเล็ก และปลอกกระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 12 ปลอก ตกอยู่บริเวณหน้าโชว์รูมดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบปากคำ นายบุญเลิศ บินอาหมัด อายุ 34 ปี รปภ.ของโชว์รูมดังกล่าว ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนกำลังนั่งเขียนรายงานอยู่บริเวณหน้าโชว์รูม จากนั้นก็มีคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ 2 คน สวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า ตรงเข้ามาหาตน พร้อมใช้อาวุธปืนกดหัวตนบังคับให้หมอบลงกับพื้นทันที จากนั้นคนร้ายทั้งสองก็ใช้ปืนระดมยิงใส่กระจกโชว์รูมหลายสิบนัด นอกจากนี้ ยังได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นด้วย แต่ด้วยความกลัว ตนเลยไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง โดยหลังจากนั้น คนร้ายทั้งสองคนก็หลบหนีออกไปโดยไม่ทราบว่าใช้รถอะไรเป็นพาหนะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีชายฉกรรจ์ 5 คน ซึ่งเป็นแก๊งทวงหนี้ ได้พกปืนเข้ามาข่มขู่พนักงานโชว์รูมดังกล่าวมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รุดไปตรวจสอบพร้อมจับกุมชายฉกรรจ์ดังกล่าวเอาไว้ได้ทั้งหมด ก่อนแจ้งข้อหาปล้นทรัพย์ ซ่องโจร และร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดี จนกระทั่งเมื่อวานนี้ มีการโทรศัพท์มาข่มขู่ที่โชว์รูมดังกล่าว 2-3 ครั้ง ก่อนจะเกิดเหตุยิงถล่มโชว์รูมในช่วงเช้ามืดวันนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวไปถึงที่เกิดเหตุ ก็ได้พบว่า พนักงานกำลังกวาดเศษกระจกบริเวณหน้าโชว์รูมอยู่ และเมื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริง ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น นอกจากนั้น มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของโชว์รูมได้โทรศัพท์มาต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า ไม่ต้องการให้เป็นข่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อคืนวันที่ 22 ม.ค.ได้เกิดเหตุในลักษณะเดียวกัน โดยคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถล่มใส่โชว์รูมรถยนต์บริษัท เอส.อี.ซี.ออโต้ เซลส์ แอนด์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เลขที่ 115 ถนนพระราม 9 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม.ราว 10 นัด ส่งผลให้กระจกโชว์รูมแตกเป็นรูได้รับความเสียหาย ซึ่งในครั้งนั้น มีรายงานว่า โชว์รูมรถยนต์ดังกล่าวมีประวัตินำรถหรูเข้ามาจากต่างประเทศ เคยมีประวัติในเรื่องการซื้อขายใบหุ้น และปัจจุบันมีรายงานว่า กำลังทำเรื่องประมูลรถเมล์ของรัฐบาลจำนวนถึง 60 คัน รวมทั้งยังมีปัญหาขัดแย้งกับบริษัทอื่นๆ อีกด้วย จนกระทั่งมาเกิดเหตุครั้งนี้ที่ โชว์รูม บริษัท นิชคาร์ จำกัด ซึ่งเป็นโชว์รูมที่นำเข้ารถหรูเช่นเดียวกัน โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า เหตุการณ์ทั้ง 2 สถานที่ที่เกิดขึ้น เจ้าของบริษัททั้ง 2 แห่ง ไม่ได้ให้ความร่วมมือในการให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกันเท่าที่ควร
ตร.ยังมึนไม่ทราบสาเหตุคนร้ายรัวยิงโชว์รูมรถยนต์กลางกรุง!
ซัลโว 10 นัด! ถล่มโชว์รูม “เอส.อี.ซี.” พระราม 9