xs
xsm
sm
md
lg

“พท.” อัด “รบ.มาร์ค” รายวัน ย้ำแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ถูกจุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“เพื่อไทย” เย้ยรัฐมองปัญหาเศรษฐกิจผิด จึงออกนโยบายผิด และยังเกาไม่ถูกที่คัน แก้ปัญหาไม่ตรงจุด แถมโบ้ย พธม.ปิดสนามบินทำท่องเที่ยวไทยซบเซาอีก 2-3 ปี ขณะเดียวกัน อ้างประชาชนฝากร้องเรียน 7 ข้อ จี้รบ.เร่งแก้ปัญหา

วันนี้ (1 มี.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงการแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า การส่งออกเดือนมกราคม 2552 ลดลงถึงร้อยละ 26.5% ดัชนีผลผลิดอุตสาหกรรมในเดือนมกราคม 2552 หดตัวลง 21.3% เมื่อเทียบกับปี 2551 ส่งผลกระทบต่อภาคแรงงานทำให้ถูกเลิกจ้างเพิ่มขึ้นจากตัวเลขเดิมที่ว่างงานอยู่แล้ว 538,540 คน รวมถึงนักศึกษาที่จะจบใหม่เฉลี่ยปีละ 675,000 คน ซึ่งภาคเอกชนเมื่อการส่งออกลดลงการผลิตก็ปรับตัวลดลงทำให้ธนาคารพาณิชย์ชะลอการปล่อยสินเชื่อลงเพราะเกรงว่าหากปล่อยสินเชื่อไปแต่ธุรกิจไม่สามารถขายสินค้าได้จะทำให้ธุรกิจขาดทุนและไม่สามารถชำระหนี้คืนได้ธนาคารจึงปล่อยเงินกู้ยากในช่วงนี้ ทำให้ธุรกิจเอกชนขนาดต่างๆ เริ่มขาดสภาพคล่องจนต้องเลิกจ้างพนักงานหรือถึงกับปิดกิจการ โดยนับตังแต่วันที่ 1 มกราคม - 20 กุมภาพันธ์ 2552 มีสถานประกอบการปิดกิจการไปแล้ว 163 แห่ง ลูกจ้างถูกเลิกจ้างทันที 17,474 คน และมีแนวโน้มว่าจะเลิกจ้างอีก 355 แห่ง ลูกจ้างอีก 132,130 คนจะตกงานเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ จากการประเมินของฝ่ายวิชาการด้านเศรษฐกิจประเมินจำนวนผู้ว่างงานปี 2552 จะมีถึง 2 ล้านคนนี่คือปัญหาที่รัฐบาลต้องแก้ให้ถูกจุด

นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า ประเทศไทยมีรายได้หลักคือการส่งออกและการท่องเที่ยว วันนี้การส่งออกแย่เพราะเศรษฐกิจทั่วโลกกำลังหดตัว การท่องเที่ยววิกฤติหนักหลังจากการปิดสนามบินของกลุ่มพันธมิตรฯและเครือข่ายเมื่อปลายปี 2551 ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจากต่างชาติในปี 2552 จะลดลงเกินกว่าครึ่งหนึ่งจากยอดนักท่องเที่ยว 13-14 ล้านคนเหลือเพียง 6-7 ล้านคนในปี 2552 เห็นได้ชัดจากการที่สายการบินต่างๆ ปรับลดเที่ยวบินมายังประเทศไทยลดลง ผู้ประกอบการ พนักงาน และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจะต้องตกงานเกือบ 1 ล้านคน คาดว่าจะกระทบต่อรายได้สูงถึง 10% ของจีดีพี ซึ่งผลมาจากการปิดสนามบินของกลุ่มพันธมิตรฯ กระทบต่อความเชื่อมั่นของต่างชาติ และส่งผลให้การท่องเที่ยวของเมืองไทยซบเซาไปอีก 2-3 ปี

นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า ความรุนแรงของวิกฤตเศรษฐกิจที่ ท่องเที่ยวทรุด รัฐบาลแก้ไม่ตรงจุด เพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรียนปริญญาโท ด้านปรัชญาและเศรษฐศาสตร์ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เป็นแค่ที่ปรึกษาทางการเงิน ยังไม่มีประสบการณ์ในการบริหารธุรกิจขนาดใหญ่ให้ได้รับความสำเร็จ รวมทั้งไม่เคยแก้ปัญหาสำคัญด้านเศรษฐกิจให้สำเร็จมาก่อน แม้กระทั่งนายกรณ์เล่นหุ้นล่าสุดก็ยังเจ๊งไป 100 กว่าล้านบาท แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมองปัญหาทางเศรษฐกิจผิด จึงออกนโยบายกู้เศรษฐกิจผิดตามไปด้วย

นายพร้อมพงศ์กล่าวด้วยว่า พรรคได้รับการร้องเรียนจากประชาชนให้นำคำถามมาถามรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ด้วยว่า 1.ปัญหาคนตกงานเกือบ 2 ล้านคนในปี 2552 จะแก้ไขอย่างไร 2.การส่งออกทรุดจะหาตลาดใหม่หรือดำเนินการอย่างไรให้พ้นวิกฤติ 3.ท่องเที่ยวแย่เพราะต่างชาติขาดความเชื่อถือ เพราะล่าสุดไทยติด 1 ใน 10 ของประเทศที่มีภาพลักษณ์แย่ที่สุดจากการปิดสนามบิน การมีกฏหมาย 2 มาตรฐาน และการเมืองที่ขาดการปรองดอง รัฐบาลจะแก้ปัญหาอย่างไรให้ความเชื่อมั่นกลับคืนมา 4.ธนาคารไม่ปล่อยสินเชื่อเพราะกลัวหนี้เสีย คำฮิตตอนวิกฤติเศรษฐกิจปี 40 “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย” กำลังกลับมา ชาวบ้านต้องหันไปกู้หนี้นอกระบบ เกิดภาวะร้อยละ 10-20% ทำให้เกิดการทวงหนี้ด้วยความรุนแรงของกลุ่มผู้มีอิทธิพล ซึ่งมีข่าวเกิดขึ้นทุกวัน 5.รัฐบาลเกาไม่ถูกที่คัน แจกเงิน 19,000 ล้านบาทให้คนเงินเดือนต่ำกว่า 15,000 บาทและผู้ประกันตน 9.3 ล้านคน แจกคนละ 2,000 บาทครั้งเดียวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่คนที่เดือดร้อนเช่น ยากจน ตกงาน และเกษตรกรรวมแล้วกว่า 23 ล้านคนไม่ได้รับการช่วยเหลือ เหมือนฝนตกไม่ทั่วฟ้า รัฐบาลจะแก้ไขอย่างไร 6.คนตกงาน ว่างงาน วิกฤตเศรษฐกิจกระทบกับสังคม ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ปัญหายาเสพติดระบาด อาชญากรรมพุ่ง รัฐบาลมีมาตรการแก้ปัญหาอย่างไร และ 7.ภัยแล้งที่รุนแรงกว่า 30 จังหวัดในขณะนี้ รัฐบาลจะเร่งดำเนินการอย่างไร

“นี่คือสิ่งที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ต้องแก้ให้ถูกจุด เกาให้ถูกที่คันอย่าสร้างภาพด้วยคำพูดดี ลอกประชานิยมไปวันๆ แต่ในทางปฏิบัติเป็นรูปธรรมยังไม่เห็นอะไรชัดเจน ควรเร่งโครงการสร้างงานให้ประชาชนทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ให้เห็นผลโดยเริ่มที่คนตกงาน และคนที่จะถูกเลิกจ้างงาน รวมทั้งเกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังดิ่งลงเหวให้เชิดหัวขึ้น” โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น