นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเหลือเพียง 0.25 เปอร์เซ็นต์นั้น เท่ากับเป็นการสะท้อนถึงสภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ย่ำแย่ เศรษฐกิจของไทยจึงคงจะชะลอตัวไปอีกในระยะยาว โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซั่น GDP คงจะขยายตัวเท่ากับ 0 หรือติดลบได้ ภาครัฐจึงต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาให้เร็วที่สุด อีกทั้ง ควรตั้งกองทุน 30,000-50,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจการท่องเที่ยว การส่งออก และภาคการผลิต ที่ได้รับผลกระทบ ไม่เช่นนั้นปีหน้าอาจมีการว่างงาน 9 แสน - 1 ล้านคน
ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย คงต้องมีการลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 1 เปอร์เซ็นต์ ให้เหลือเพียง 0.75 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเป็นการกระตุ้นการลงทุน และลดค่าใช้จ่ายของภาคธุรกิจ
นอกจากนี้ นายธนิต ยังกล่าวถึงภารกิจแรกที่รัฐบาลใหม่ควรทำด้วยว่า ต้องเร่งสร้างความสมานฉันท์ภายในประเทศก่อน ไม่เช่นนั้นความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว การลงทุน คงฟื้นกลับคืนมาไม่ได้ อีกทั้งรัฐบาลชุดใหม่ควรดึงคนนอกที่มีความสามารถ มาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการในกระทรวงเศรษฐกิจ เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทย
ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย คงต้องมีการลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 1 เปอร์เซ็นต์ ให้เหลือเพียง 0.75 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเป็นการกระตุ้นการลงทุน และลดค่าใช้จ่ายของภาคธุรกิจ
นอกจากนี้ นายธนิต ยังกล่าวถึงภารกิจแรกที่รัฐบาลใหม่ควรทำด้วยว่า ต้องเร่งสร้างความสมานฉันท์ภายในประเทศก่อน ไม่เช่นนั้นความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว การลงทุน คงฟื้นกลับคืนมาไม่ได้ อีกทั้งรัฐบาลชุดใหม่ควรดึงคนนอกที่มีความสามารถ มาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการในกระทรวงเศรษฐกิจ เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทย