มะกันส่วนใหญ่มองวิกฤต ศก.จะยิ่งย่ำแย่-ไม่เชื่อ ปธน.คนใหม่จะแก้ไขได้

เอเจนซี – โพลยูเอสเอ ทูเดย์/แกลลอป ซึ่งตีพิมพ์วันนี้ (14) ชี้ชาวอเมริกันส่วนใหญ่คาดว่า วิกฤตเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะยิ่งเลวร้ายลงไปอีก ทั้งยังไม่เชื่อว่าผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใดจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้

ผลโพล พบว่า 84% ของผู้ร่วมตอบแบบสอบถามคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังย่ำแย่ลงเรื่อยๆ แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการใหม่เพื่อช่วยระบบธนาคารที่ง่อยเปลี้ย ขณะที่ 91% ระบุว่า พวกเขาไม่พอใจกับสิ่งที่เป็นไปในสหรัฐฯ ณ ตอนนี้

ยิ่งไปกว่านั้น ชาวอเมริกัน 63% เผยว่า พวกเขาไม่เชื่อว่า หากจอห์น แมคเคน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของพรรครีพับลิกัน ได้รับเลือกตั้งแล้วเขาจะยุติวิกฤตเศรษฐกิจได้ ขณะที่ 31% มีความเชื่อมั่นในตัววุฒิสมาชิกรัฐอริโซนา และที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ

ขณะเดียวกัน 50% ของผู้ร่วมในการสำรวจความเห็น ระบุว่า พวกเขาเชื่อมั่นว่าบารัค โอบามา ตัวเก็งจากพรรคเดโมแครตจะสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ เมื่อเทียบกับ 44% ที่ขาดความเชื่อถือ

ทั้งนี้ เวลา 3 สัปดาห์ล่วงหน้าการเลือกตั้งวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้ ผู้สมัครชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ ต่างพุ่งประเด็นไปที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยแมคเคนเตรียมจะยื่นแผนใหม่เพื่อช่วยชาวอเมริกันกระตุ้นตลาดหุ้น ส่วนโอบามาก็เสนอการสร้างงาน และรองรับชาวอเมริกันจากผลกระทบขาลงของเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถาม 49% ชี้ว่า พวกเขาไม่เห็นการฟื้นตัวมาเป็นเวลานานแล้ว และปัญหาในปัจจุบันแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงไปอย่างถาวรของเศรษฐกิจ แต่ยังมีประชาชนอีก 47% เชื่อว่า เศรษฐกิจขาลงของสหรัฐฯ จะเป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น

โดยรวมแล้ว โอบามา มีคะแนนนิยมนำแมคเคนอยู่ 51% ต่อ 44% ตามผลการสำรวจของยูเอสเอ ทูเดย์ และแกลลอป ที่สำรวจความเห็นของผู้ใหญ่ 1,269 คน ในวันศุกร์ (10) ถึงวันอาทิตย์ (12) ที่ผ่านมา โดยมีขอบเขตความผิดพลาดอยู่ที่บวกลบ 3%