xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” กลับลำหั่นเป้าส่งออกปี 52 เหลือแค่ 10% หวั่นปลดคนงานทั่วโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ไชยา” สวนหมัด “ศิริพล” ยันเป้าส่งออกปี 52 โตได้แค่ 10% ชี้ ศก.ทั่วโลกชะลอตัว กระทบกำลังซื้อลูกค้าหลัก ด้านรองประธาน ส.อ.ท.ยอมรับ 13% ก็เก่งแล้ว หวั่นปัญหาการปลดคนงานทั่วโลก

วันนี้ (14 ต.ค.) นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ออกมาระบุว่า การส่งออกของไทยในปี 2552 อาจจะเติบโตเหลือเพียง 10% จากก่อนหน้านี้ ที่คาดว่า จะตั้งเป้าหมายการส่งออกไว้ที่ 15% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของหลายประเทศในปีหน้าที่ชะลอตัวส่งผลให้กำลังซื้อลดลงด้วย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมแผนรองรับเพื่อกระตุ้นภาคการส่งออกไว้แล้ว พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า 6 มาตรการที่รัฐบาลออกมาเมื่อวานนี้ จะสามารถรับมือกับวิกฤตการเงินของโลกได้

ส่วนการที่ นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า พร้อมจะลาออกจากตำแหน่งหากมาตรการดังกล่าวไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้นั้น ถือเป็นการแสดงออกที่ดี เพราะทำให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในมาตรการที่รัฐบาลประกาศออกมาว่าจะสามารถช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจและรับมือกับวิกฤติการเงินของโลกได้

โดยวานนี้ นายศิริพล ยอดเมือง ปลัดกระทรวงทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เดิมกระทรวงพาณิชย์ ได้ตั้งเป้าการขยายตัวในการส่งออกปีหน้าไว้ที่ 15-19% หรือประมาณ 6 ล้านล้านบาท แต่ล่าสุด ได้มีการปรับเพิ่มเป้าหมายการส่งออกใหม่เป็น 6.6 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นอีก 6 แสนล้านบาท แม้ว่าจะมีความน่าหนักใจ เนื่องจากหลายฝ่ายคาดหมายว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกในปีหน้ายังมีปัญหาอย่างหนักอยู่

นายธนิต โสรัตน์ รองประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงผลกระทบเศรษฐกิจโลกต่อการส่งออกของไทย โดยประเมินว่าในปีหน้าไทยต้องรับศึกหนักอย่างแน่นอน โดยจากการที่ภาครัฐคาดการณ์ว่า การส่งออกน่าจะขยายตัวได้สูงกว่า 15% แต่ภาคเอกชนกลับมองว่า หากไทยส่งออกได้ 13-15% ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว

ทั้งนี้ การส่งออกของไทยกำลังจะได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤตการเงินสหรัฐอเมริกา ตลอดจนภาวะตลาดในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (อียู) และญี่ปุ่นด้วย ซึ่งเป็นตลาดที่มีมูลค่าการส่งออกรวมกันประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์ โดยสินค้าส่งออกได้รับผลกระทบหลัก เช่น สินค้าพวกสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่มระดับพรีเมียม อุตสาหกรรมอัญมณี เครื่องไฟฟ้าและแผงคอมพิวเตอร์

นอกจากนี้ พบว่า เมื่อตลาดเหล่านี้กำลังซื้อลดลง จากปัญหาวิกฤตการเงินโลก และลุกลามไปยังสถาบันการเงินต่างๆ จะส่งผลให้เริ่มมีการปลดคนงานออกจำนวนมาก คล้ายกับวิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 กำลังซื้อที่ลดลงนี้ ย่อมส่งผลกระทบมาถึงยอดการนำเข้าด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น