นายสุเมธ เหล่าโมราพร กรรมการผู้จัดการบริษัท ซีพี อินเตอร์เทรด จำกัด กล่าวว่า การที่รัฐบาลประกาศรับจำนำข้าวเปลือกนาปี โดยใช้วงเงิน 100,000 ล้านบาท ไม่ได้เป็นการสร้างภาระ แต่สร้างสมดุลให้ระบบ รัฐบาลต้องบริหารสต๊อกข้าวให้มีประสิทธิภาพ หากบริหารไม่ได้ไทยอาจจะต้องนำเข้าข้าวที่ราคาสูงแทน
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า หลายอุตสาหกรรมอาจกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงจนถึงขั้นต้องปิดโรงงาน ซึ่งการดูแลสินค้าเกษตรเป็นการสร้างอำนาจซื้อให้เกษตรกร เพื่อจับจ่ายใช้สอยในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ
ขณะที่สถานการณ์การส่งออกข้าว ไทยยังไม่ควรเร่งขายข้าวออกไปยังตลาดต่างประเทศ เนื่องจากผู้ส่งออกรายใหญ่อย่างเวียดนาม มีสต๊อกข้าวเตรียมส่งออกเป็นจำนวนมาก ทำให้ไทยลำบากในการแข่งขันด้านราคา และจะยิ่งซ้ำเติมให้ราคาข้าวต่ำลงไปอีก โดยปัจจุบันราคาข้าวที่เวียดนามขาย ต่ำกว่าไทยประมาณ 200 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน โดยขายอยู่ที่ 350 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน หรือคิดเป็นกิโลกรัมละ 13 บาท ขณะที่ข้าวไทยขายอยู่ที่ 600 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน สำหรับข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ข้าวหอมมะลิ และข้าวนึ่ง ราคายังไม่ตกลงมาก เนื่องจากไทยเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่
นายสุเมธ กล่าวด้วยว่า ราคาสินค้าเกษตรไทยที่ผ่านมาขึ้น-ลงอย่างรวดเร็ว ตามความต้องการและปริมาณสินค้า และการเก็งกำไรล่วงหน้า ทำให้ราคาสินค้าเกษตรผันผวน เหมือนกับค่าเงินบาท หุ้น ตราสารหนี้ และราคาน้ำมัน นอกจากนี้ วิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าเกษตรให้ลดลงไปแล้วประมาณร้อยละ 50 ตามทิศทางราคาน้ำมัน
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า หลายอุตสาหกรรมอาจกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงจนถึงขั้นต้องปิดโรงงาน ซึ่งการดูแลสินค้าเกษตรเป็นการสร้างอำนาจซื้อให้เกษตรกร เพื่อจับจ่ายใช้สอยในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ
ขณะที่สถานการณ์การส่งออกข้าว ไทยยังไม่ควรเร่งขายข้าวออกไปยังตลาดต่างประเทศ เนื่องจากผู้ส่งออกรายใหญ่อย่างเวียดนาม มีสต๊อกข้าวเตรียมส่งออกเป็นจำนวนมาก ทำให้ไทยลำบากในการแข่งขันด้านราคา และจะยิ่งซ้ำเติมให้ราคาข้าวต่ำลงไปอีก โดยปัจจุบันราคาข้าวที่เวียดนามขาย ต่ำกว่าไทยประมาณ 200 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน โดยขายอยู่ที่ 350 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน หรือคิดเป็นกิโลกรัมละ 13 บาท ขณะที่ข้าวไทยขายอยู่ที่ 600 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน สำหรับข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ข้าวหอมมะลิ และข้าวนึ่ง ราคายังไม่ตกลงมาก เนื่องจากไทยเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่
นายสุเมธ กล่าวด้วยว่า ราคาสินค้าเกษตรไทยที่ผ่านมาขึ้น-ลงอย่างรวดเร็ว ตามความต้องการและปริมาณสินค้า และการเก็งกำไรล่วงหน้า ทำให้ราคาสินค้าเกษตรผันผวน เหมือนกับค่าเงินบาท หุ้น ตราสารหนี้ และราคาน้ำมัน นอกจากนี้ วิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าเกษตรให้ลดลงไปแล้วประมาณร้อยละ 50 ตามทิศทางราคาน้ำมัน