องค์การที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังก์ถัด) ออกรายงานวันพุธ(24) ชี้ว่าเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) ของทั้งโลก น่าจะลดลงราว 10% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับระดับของปี 2007 เนื่องจากบริษัทขนาดใหญ่พากันตัดลดแผนการใช้จ่ายต่าง ๆลงไป
รายงานของอังก์ถัดระบุว่าเมื่อปี 2007 นั้น เงินลงทุนโดยตรงของต่างประเทศ (foreign direct investment หรือ FDI) เพิ่มขึ้น 30% เป็น 1.83 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่าเมื่อปีที่แล้ววิกฤตจะเริ่มต้นขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
แต่ในปีนี้การลงทุนจะมีมูลค่าลดลง สาเหตุหลักมาจากการควบรวมกิจการที่มีน้อยลง โดยที่การควบรวมนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะกระตุ้นเงินทุนไหลเข้า
"เอฟดีไอที่ไหลไปสู่ประเทศกำลังพัฒนาโดยรวม ยังมีแนวโน้มว่าจะยังคงอยู่ในระดับเดิม ทว่าจุดหลักๆ ที่จะลดต่ำนั้นก็คือการโอนเม็ดเงินที่เกี่ยวเนื่องกับการควบรวมกิจการ" นายศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการของอังก์ถัดกล่าวในระหว่างการแถลงถึงเนื้อหาของรายงาน
รายงานของอังก์ถัดบอกว่า ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ การควบรวมกิจการในระดับข้ามประเทศ ได้ลดลง 29% เมื่อเทียบกับครึ่งหลังของปีที่แล้ว ในขณะที่ทั้งปี 2007 มูลค่าการควบรวมกิจการคิดเป็นเงิน 1.64 ล้านล้านดอลลาร์
รายงานของอังก์ถัดระบุว่าเมื่อปี 2007 นั้น เงินลงทุนโดยตรงของต่างประเทศ (foreign direct investment หรือ FDI) เพิ่มขึ้น 30% เป็น 1.83 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่าเมื่อปีที่แล้ววิกฤตจะเริ่มต้นขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
แต่ในปีนี้การลงทุนจะมีมูลค่าลดลง สาเหตุหลักมาจากการควบรวมกิจการที่มีน้อยลง โดยที่การควบรวมนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะกระตุ้นเงินทุนไหลเข้า
"เอฟดีไอที่ไหลไปสู่ประเทศกำลังพัฒนาโดยรวม ยังมีแนวโน้มว่าจะยังคงอยู่ในระดับเดิม ทว่าจุดหลักๆ ที่จะลดต่ำนั้นก็คือการโอนเม็ดเงินที่เกี่ยวเนื่องกับการควบรวมกิจการ" นายศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการของอังก์ถัดกล่าวในระหว่างการแถลงถึงเนื้อหาของรายงาน
รายงานของอังก์ถัดบอกว่า ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ การควบรวมกิจการในระดับข้ามประเทศ ได้ลดลง 29% เมื่อเทียบกับครึ่งหลังของปีที่แล้ว ในขณะที่ทั้งปี 2007 มูลค่าการควบรวมกิจการคิดเป็นเงิน 1.64 ล้านล้านดอลลาร์