ไชน่าเดลี่ – กระทรวงพาณิชย์จีนเผยตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ(เอฟดีไอ)ที่ไม่ใช่ภาคการการเงิน ปี 2007 เมื่อวันจันทร์ (21 ม.ค.) ว่า เม็ดเงินจากบริษัทต่างชาติที่ไหลเข้ามีมูลค่ากว่า 74,700 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.59 % จากปีก่อนหน้า ขณะที่เอฟดีไอ(รวมภาคการเงิน)ปี 2007 มูลค่าสุทธิ 82,700 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 13.8 %
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เศรษฐกิจที่จีนมองว่ากำลังไปได้ดีนั้น อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ทั้งนี้เพราะบริษัทต่างชาติต้องต้องจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตรา 25% เพิ่มขึ้นจากเดิม 15% ซึ่งเป็นผลมาจากการที่จีนได้ประกาศใช้กฎหมายภาษีเงินได้นิติบุคคลอัตราใหม่ ที่บังคับใช้เมื่อต้นปี 2008
สำหรับบริษัทต่างชาติที่ทำการจดทะเบียนก่อนวันที่บังคับใช้กฎหมายดังกล่าว จะยังคงได้รับสิทธิพิเศษด้านภาษีในอัตราเดิมเป็นเวลา 5 ปี แต่ในแง่ของการค้าต้องแบกรับค่าแรงและวัตถุดิบที่สูงขึ้น อาทิ ราคาน้ำมัน พลาสติก เหล็ก ตลอดจนต้องเผชิญกับนโยบายของทางการจีนที่เข้มงวดมากกว่าเดิม
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายต่างคาดการณ์ว่า เอฟดีไอของจีนจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีนโยบายของทางการเข้ามาขัดขวางการลงทุน และคาดว่าเอฟดีไอจีนที่ไม่ใช่ภาคการเงินปี 2008 จะเพิ่มขึ้น 2-6 % แตะ 69,000 – 72,000 ล้านเหรียญ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เศรษฐกิจที่จีนมองว่ากำลังไปได้ดีนั้น อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ทั้งนี้เพราะบริษัทต่างชาติต้องต้องจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตรา 25% เพิ่มขึ้นจากเดิม 15% ซึ่งเป็นผลมาจากการที่จีนได้ประกาศใช้กฎหมายภาษีเงินได้นิติบุคคลอัตราใหม่ ที่บังคับใช้เมื่อต้นปี 2008
สำหรับบริษัทต่างชาติที่ทำการจดทะเบียนก่อนวันที่บังคับใช้กฎหมายดังกล่าว จะยังคงได้รับสิทธิพิเศษด้านภาษีในอัตราเดิมเป็นเวลา 5 ปี แต่ในแง่ของการค้าต้องแบกรับค่าแรงและวัตถุดิบที่สูงขึ้น อาทิ ราคาน้ำมัน พลาสติก เหล็ก ตลอดจนต้องเผชิญกับนโยบายของทางการจีนที่เข้มงวดมากกว่าเดิม
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายต่างคาดการณ์ว่า เอฟดีไอของจีนจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีนโยบายของทางการเข้ามาขัดขวางการลงทุน และคาดว่าเอฟดีไอจีนที่ไม่ใช่ภาคการเงินปี 2008 จะเพิ่มขึ้น 2-6 % แตะ 69,000 – 72,000 ล้านเหรียญ
