นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้บริหารสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แถลงผลสำรวจความเห็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน หรือ ซีอีโอ ในตลาดหลักทรัพย์ประจำไตรมาส 3 ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ถึงต้นเดือนกันยายน โดยหากเกิดปัญหาทางการเมืองหนักขึ้น ส่วนใหญ่เห็นว่า หากรัฐบาลยังเป็นชุดเดิมก็คงจะทำงานได้ไม่เกิน 3 เดือน และจะก่อให้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจตามมา เห็นได้ชัดว่าในช่วงประมาณ 3 เดือน ที่เริ่มมีการชุมนุม ความเชื่อมั่นด้านการลงทุนต่างๆ ลดน้อยลง โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์ลดลงจากประมาณ 900 จุด เหลือ 650 จุด และมูลค่าตลาดรวม หรือมาร์เก็ตแค็ป ลดลงกว่า 1.7 ล้านล้านบาท
ผลสำรวจยังพบว่า นักลงทุนยังมั่นในใจในพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศด้านการลงทุน การส่งออกยังคงขยายตัว แต่ว่าการบริโภคเริ่มชะลอตัวลง และมีความกังวลกับปัญหาการเมืองมากขึ้น จนกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงทางธุรกิจ ใกล้เคียงกับปัญหาเงินเฟ้อ และการเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบ ซึ่งซีอีโอ ส่วนใหญ่มองว่ายังคงเป็นปัจจจัยเสี่ยงอันดับที่ 1
อย่างไรก็ตาม ยังมองว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจน่าจะอยู่ที่ร้อยละ 4.5 - 5.5 ต่ำกว่าประมาณการของสภาพัฒน์และแบงก์ชาติเล็กน้อย ส่วนสิ่งที่รัฐบาลควรจะเข้ามาแก้ปัญหาเป็นอันดับแรก ได้แก่ การสร้างเสถียรภาพทางการเมือง การสานต่อเรื่องการลงทุนเมกะโปรเจกต์ และการแก้ปัญหาเงินเฟ้อ
ผลสำรวจยังพบว่า นักลงทุนยังมั่นในใจในพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศด้านการลงทุน การส่งออกยังคงขยายตัว แต่ว่าการบริโภคเริ่มชะลอตัวลง และมีความกังวลกับปัญหาการเมืองมากขึ้น จนกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงทางธุรกิจ ใกล้เคียงกับปัญหาเงินเฟ้อ และการเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบ ซึ่งซีอีโอ ส่วนใหญ่มองว่ายังคงเป็นปัจจจัยเสี่ยงอันดับที่ 1
อย่างไรก็ตาม ยังมองว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจน่าจะอยู่ที่ร้อยละ 4.5 - 5.5 ต่ำกว่าประมาณการของสภาพัฒน์และแบงก์ชาติเล็กน้อย ส่วนสิ่งที่รัฐบาลควรจะเข้ามาแก้ปัญหาเป็นอันดับแรก ได้แก่ การสร้างเสถียรภาพทางการเมือง การสานต่อเรื่องการลงทุนเมกะโปรเจกต์ และการแก้ปัญหาเงินเฟ้อ
