xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยสิ้นมนต์ขลัง บจ.เล็งเพิกถอนเผ่นซบ ตปท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตลาดหลักทรัพย์ เผยผลสำรวจผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนล่าสุด พบ บจ.5 แห่งเล็งขอเพิกถอนหุ้นพ้นตลาดหลักทรัพย์ และอีก 7 ราย เตรียมเข็นบริษัทลูกจดทะเบียนตลาดหุ้นต่างประเทศแทน เหตุกฎเกณฑ์และข้อบังคับเข้มมากเกินไป บวกกับต้องเปิดเผยข้อมูลมากทำให้เสียเปรียบคู่แข่ง ขณะที่ บจ.3 รายสนใจเทรดดูอัลลิสติ้ง ด้านตลาดหลักทรัพย์เร่งหาแนวทางสร้างความพึงพอใจ หวังยื้อ บจ.อยู่ในตลาดหุ้นต่อ ระบุ อนาคตตลาดหุ้นภูมิภาคแข่งขันดึงบริษัทเข้าจดทะเบียน

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้บริหารสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สถาบันวิจัยฯ ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารการเงินของบริษัทจดทะเบียน (CEO Survey) เรื่องแรงจูงใจการเข้าจดทะเบียนสิทธิประโยชน์จาการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ พบว่า บริษัทจดทะเบียนกว่า 80% พึงพอใจต่อการให้บริการของตลาดหลักทรัพย์ฯ และพึงพอใจต่อการเป็นบริษัทจดทะเบียน 75%

สำหรับการสำรวจความเห็นครั้งนี้ มีผู้ตอบแบบสอบถามทั้งสิ้นจำนวน 220 บริษัท ใน 8 อุตสาหกรรม คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 61% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตคลาด (มาร์เกตแคป) โดยแบบสอบถามจะครอบคลุมถึงเรื่องของการระดมทุน ค่าใช้จ่ายของการเป็นบริษัทจดทะเบียน การเปิดเผยข้อมูล บรรษัทภิบาล ความพึงพอใจต่อการให้บริการและโครงการต่างๆ ของตลาดหลักทรัพย์

ทั้งนี้ มีบริษัทจดทะเบียนคิดเป็นสัดส่วน 3% ที่ไม่ค่อยพอใจต่อการเป็นบริษัทจดทะเบียน ซึ่งจากการสอบถามอุปสรรคและปัญหาของการเป็นบริษัทจดทะเบียนอันดับ 1 มองว่ามีกฎเกณฑ์และข้อบังคับมากขึ้นไป อันดับ 2 ค่าใช้จ่ายในการเป็นบริษัทจดทะเบียนสูง อันดับ 3 บังคับให้เปิดเผยข้อมูลมากเกินไป และอันดับ 4 ราคาหุ้นของบริษัทต่ำกว่าที่เป็นจริง ฯลฯ

พร้อมกันนี้ จากการสอบถามในเรื่องบริษัทมีแผนการดำเนินงานอย่างไรในอนาคตนั้น พบมีบริษัทที่ต้องการเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยความสมัครใจจำนวน 5 บริษัท บริษัทที่ต้องการนำหลักทรัพย์ฯ ไปจดทะเบียนในต่างประเทศในลักษณะดูอัลลิสติ้ง 3 แห่ง บริษัทที่ต้องการควบรวมกิจการ 21 แห่ง และบริษัทที่ต้องการนำบริษัทย่อยไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นต่างประเทศอีก 7 แห่ง

สำหรับการสอบสำรวจในเรื่องแรงจูงใจในการเข้ามาเป็นบริษัทจดทะเบียนนั้น จากการสำรวจพบว่าแรงจูงใจ 4 อันดับแรก คือ ความต้องการระดมทุนเพื่อใช้ขยายกิจการ การสร้างภาพลักษณ์บริษัทให้มีความน่าเชื่อถือ การเพิ่มมูลค่าหุ้นและสภาพคล่องแก่ผู้ถือหุ้น และสุดท้ายคือต้องการสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี ซึ่งสิทธิประโยชน์ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรมจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนได้ การทำงานที่โปร่งใส และผู้ถือตรวจสอบได้ บริษัทมีความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น บุคคลทั่วไปรู้จักบริษัทมากขึ้น

นอกจากนี้ การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ส่งผลให้บริษัทมีความน่าเชื่อถือสามารถกู้เงินกับสถาบันการเงินได้ง่ายขึ้น และได้ในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าการไม่เป็นบริษัทจดทะเบียน ประมาณ 2% ขณะเดียวกันหากมีการเสนอขายหุ้นกู้จะทำให้บริษัทมีต้นทุนต่ำกว่าการกู้จากสถาบันการเงิน โดยเฉพาะบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่และขนาดกลางที่จะมีต้นทุนต่ำกว่าบริษัทขนาดเล็ก

อย่างไรก็ตาม แม้การดำเนินการเสนอขายหุ้นกู้ยังมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก ทำให้บริษัทจดทะเบียนกว่า 75% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด ไม่เคยระดมทุนด้วยการเสนอขายหุ้นกู้ ขณะที่มีบริษัทจทดะเบียนประมาณ 38% ไม่ใช้การแนวทางการระดมทุนด้วยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน เนื่องจากไม่มีความจำเป็นใช้เงินจำนวนมาก และกังวลส่วนผู้ถือหุ้นลดลง

นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า จากการสำรวจด้านหลักทรัพย์และนักลงทุนนั้น มีบริษัทจดทะเบียน 9% ให้คำตอบว่าปัจจุบันนักลงทุนให้ความสนใจหลักทรัพย์ของบริษัทน้อยมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทขนาดเล็ก โดยมีสาเหตุจากหุ้นขนาดสภาพคล่อง จำนวนหุ้นหมุนเวียนในตลาด (ฟรีโฟลต) ต่ำ และบริษัทอยู่ในธุรกิจที่นักลงทุนไม่สนใจหรือเข้าใจยาก ซึ่งทางแก้ไขปัญหามองว่าควนนำข้อมูลของบริษัทมาลงทุนสื่อสิ่งพิมพ์ ให้นักวิเคราะห์ออกบทวิเคราะห์บริษัทมากขึ้น และเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าเยี่ยมชมกิจการของบริษัทมากขึ้น ฯลฯ

สำหรับวัตถุประสงค์ของการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนครั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ต้องการทราบความพึงพอใจและปัญหาข้อติดขัดจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน เพื่อที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการปรับปรุง ซึ่งจากการที่ บจ.มองว่า การเป็นบริษัทจดทะเบียนมีกฎเกณฑ์ที่มากเกินไปนั้น ก็จะนำมาพิจารณาว่ามีความจำเป็นต้องใช้เกณฑ์ดังกล่าวหรือไม่ และมีเกณฑ์อะไรบ้างที่ตลาดหลักทรัพย์ มีเกณฑ์ที่เข้มกว่าตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศเพื่อที่จะผ่อนเกณฑ์ได้หรือไม่ เพื่อสร้างความพึงพอใจ และแรงจูงใจให้บจ.อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ต่อไป เพราะในอนาคตตลาดหุ้นจะมีการแข่งขันกับตลาดหุ้นต่างประเทศในการชวนบริษัทเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นของตน

“จากการที่ตลาดหลักทรัพย์ได้จัดทำผลสำรวจครั้งนี้ เพื่อที่จะทราบความพึงพอใจและปัญหาที่บจ.ไม่พอใจ และเมื่อพบว่าบจ.ต้องการจะออกจาก ตลท.สาเหตุจากไม่ได้ใช้ประโยชน์เต็มที่จากการเป็นบจ.มีกฎเกณฑ์ที่เยอะ และค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งจากการสำรวจทำให้ตลาดหลักทรัพย์ทราบว่า บริษัทใดไม่พึงพอใจก็จะส่งเจ้าหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์ในส่วนบริการ บจ.ในส่วนสายงานระดมทุนเข้าไปช่วยเหลือแนะนำเพื่อที่จะให้บริษัทดังกล่าวใช้ประโยชน์ที่คุ้มค่าและต้องการที่ออกจากการเป็น บจ.” นายกอบศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น