ญี่ปุ่นระบุวันพุธ (13) อัตราเติบโตของเศรษฐกิจไตรมาส 2 ปีนี้หดตัวลงเพราะการส่งออกและการจับจ่ายใช้สอยในประเทศที่ชะลอ ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าญี่ปุ่นจะเผชิญหน้ากับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ผลผลิตมวลรวมประชาชาติหรือจีดีพีไตรมาส 2 ที่สิ้นสุดเมื่อเดือนมิถุนายนปีนี้ หดตัวลงไป 0.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรก หรือหากคิดเป็นอัตราการเติบโตต่อปีก็จะเท่ากับหดตัวลง 2.4% ความกังวลนี้บวกกับวิกฤตการเงินในสหรัฐฯ ที่ทำท่าว่าจะรุนแรงขึ้นอีกทำให้ตลาดหุ้นโตเกียวเมื่อวันพุธ (13) ร่วงลงไปถึง 2.1%
เสาหลักทั้ง 3 เสาของเศรษฐกิจญี่ปุ่น ต่างส่งสัญญาณชะลอตัวทั้งหมด โดยยอดการส่งออกในไตรมาสสองตกลงถึง 2.3% จากความต้องการสินค้าในต่างประเทศที่ลดลงมาก ขณะที่การจับจ่ายใช้สอยในประเทศลดลง 0.5% ส่วนการลงทุนภาคธุรกิจก็ลดลงไป 0.2% เช่นกัน
นักวิเคราะห์ เห็นว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% ดังเดิมเพราะนอกจากเศรษฐกิจชะลอตัวแล้ว ญี่ปุ่นก็ยังเผชิญกับปัญหาอัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นอีกด้วย ทำให้ธนาคารกลางยังไม่สามารถจะทำอะไรได้ถนัดนัก
ผลผลิตมวลรวมประชาชาติหรือจีดีพีไตรมาส 2 ที่สิ้นสุดเมื่อเดือนมิถุนายนปีนี้ หดตัวลงไป 0.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรก หรือหากคิดเป็นอัตราการเติบโตต่อปีก็จะเท่ากับหดตัวลง 2.4% ความกังวลนี้บวกกับวิกฤตการเงินในสหรัฐฯ ที่ทำท่าว่าจะรุนแรงขึ้นอีกทำให้ตลาดหุ้นโตเกียวเมื่อวันพุธ (13) ร่วงลงไปถึง 2.1%
เสาหลักทั้ง 3 เสาของเศรษฐกิจญี่ปุ่น ต่างส่งสัญญาณชะลอตัวทั้งหมด โดยยอดการส่งออกในไตรมาสสองตกลงถึง 2.3% จากความต้องการสินค้าในต่างประเทศที่ลดลงมาก ขณะที่การจับจ่ายใช้สอยในประเทศลดลง 0.5% ส่วนการลงทุนภาคธุรกิจก็ลดลงไป 0.2% เช่นกัน
นักวิเคราะห์ เห็นว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% ดังเดิมเพราะนอกจากเศรษฐกิจชะลอตัวแล้ว ญี่ปุ่นก็ยังเผชิญกับปัญหาอัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นอีกด้วย ทำให้ธนาคารกลางยังไม่สามารถจะทำอะไรได้ถนัดนัก