xs
xsm
sm
md
lg

เศรษฐกิจญี่ปุ่นย่ำแย่กว่าที่คาด หวั่น"ถดถอย"ถึงไตรมาส1ปีหน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี/รอยเตอร์ - เศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตรมาสสาม จมดิ่งลงสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยลึกยิ่งกว่าที่ประกาศกันออกมาก่อนหน้านี้ เหตุเพราะบริษัทต่าง ๆหั่นลดการลงทุนเพื่อรับมือกับวิกฤตการเงิน และเลยทำให้เพิ่มความวิตกกันว่า ประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรายนี้ จะประสบกับภาวะหดตัวครั้งยาวนานที่สุด

ทางการญี่ปุ่นออกมาระบุวานนี้(9)ว่า ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายนที่ผ่านมา เศรษฐกิจของญี่ปุ่นหดตัวลง 0.5% หรือเท่ากับ 1.8% หากคิดจากฐาน 12 เดือน

ถึงแม้ตามรายงานเบื้องต้นที่ประกาศตั้งแต่เดือนที่แล้ว แสดงให้เห็นอยู่แล้วว่าในไตรมาสดังกล่าวนี้ อัตราเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะอยู่ในสภาพติดลบอีก ซึ่งก็จะเป็นการติดลบต่อเนื่องจากไตรมาสสอง และเท่ากับตกอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย ตามคำจำกัดความกว้างๆ ที่ยึดถือกันโดยทั่วไป ทว่าตัวเลขที่ออกมาในตอนนั้นบอกว่า ไตรมาสสามปีนี้ หดตัวเพียง 0.1% และเมื่อคิดเป็นรอบ 12 เดือนก็เท่ากับ 0.4%

ภาพที่ออกมาเช่นนี้จึงทำให้เกิดความวิตกว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของญี่ปุ่นอาจจะลงไปลึกและยาวนานกว่าที่ได้คาดไว้ก่อนหน้านี้ โดยที่มีความเป็นไปได้มากน่าจะยืดเยื้อไปจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้าเป็นอย่างน้อยที่สุด ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ เศรษฐกิจแดนอาทิตย์อุทัยก็จะเผชิญภาวะตกต่ำถึง 4 ไตรมาสต่อเนื่องกัน อันถือเป็นสถิติใหม่นับแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สองทีเดียว

นอกจากนั้นบรรดานักวิเคราะห์ต่างก็เชื่อว่าตัวเลขที่ออกมาอาจทำให้ธนาคารกลางลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหนึ่ง ถึงแม้เวลานี้จะยืนเหนือระดับ 0% ไม่เท่าไรอยู่แล้ว

"ตัวเลขชี้ว่าเศรษฐกิจนั้นหดตัวเร็วกกว่าที่คาดไว้ และความลึกของการดิ่งลงน่าจะร้ายแรงมากขึ้น" เกลน แมกไกวร์ หัวหน้านักเศรษฐกิจเอเชียของโซซิเยเต้ เจเนราลใ นฮ่องกงกล่าว

"เรายังไม่เห็นว่าเศรษฐกิจเสียหายร้ายแรงแค่ไหนในไตรมาสสี่ แต่เมื่อพิจารณาดูจากตัวเลขไตรมาสสามแล้วน่าจะย่ำแย่เอามาก ๆ" เขากล่าวและทำนายว่าภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจะอยู่ไปถึงกลางปี 2009

การลงทุนของภาคธุรกิจที่ลดต่ำลงอย่างมาก เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้การหดตัวรุนแรงกว่าที่คาดเอาไว้ บริษัทต่างพากันลดการใช้จ่ายในอุปกรณ์ใหม่ ๆและทางด้านการผลิตลง 2% เทียบกับที่คาดไว้ก่อนหน้าราว 1.7%

โซนี่ซึ่งเป็นเสมือนเครื่องวัดสถานการณ์ของธุรกิจเอกชนของญี่ปุ่นก็ออกมาประกาศว่าจะลดการลงทุนในธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ราว 30% และปลดคนงานราว 4% ของที่มีอยู่ทั้งหมดทั่วโลก หรือเท่ากับประมาณ 8,000 คน

เศรษฐกิจของญี่ปุ่นนั้นพึ่งพาการส่งออกอย่างมาก แต่วิกฤตการเงินอันรุนแรงก็กำลังทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และดึงเอาการค้าระหว่างประเทศให้ทรุดลงไปด้วย

สถานการณ์เศรษฐกิจของญี่ปุ่นนั้นย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ โดยส่วนใหญ่คาดหมายว่าไตรมาสสามนี้น่าจะหดตัวลงแค่ 0.2% เมื่อเทียบกันรายไตรมาส นอกจากนั้นสำหรับไตรมาสอง ตัวเลขของรัฐบาลชี้ว่าเมื่อปรับตัวแปรต่าง ๆแล้ว ก็หดตัวถึง 1% ซึ่งแย่กว่าที่คาดไว้เดิมเล็กน้อย

อุตสาหกรรมส่งออกที่ญี่ปุ่นพึ่งพามากก็คือ รถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และอื่น ๆที่เคยเป็นพลังขับดันให้พ้นจากภาวะชะลอตัวเมื่อในทศวรรษ 1990 แต่ตอนนี้อุตสาหกรรมเหล่านี้กลับมีปัญหาเสียเอง ความต้องการสินค้าเหล่านี้ในต่างประเทศลดลงอย่างมาก

"บริษัทต่างก็เผชิญกับกำไรที่ลดลง และความต้องการสินค้าในอนาคตก็น่าจะลดลงไปด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงต้องลดการลงทุนธุรกิจในสองสามไตรมาสข้างหน้า" โทโมโก ฟูจิอิ หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์และยุทธศาสตร์ของแบงก์ออฟอเมริกากล่าว

ตัวเลขที่เลวร้ายนี้ทำให้หลายฝ่ายคาดกันว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะลดอัตราดอกเบี้ยลงมาอีกเพื่อให้ต้นทุนการกู้ยืมลดลง โดยหวังว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งนี้เมื่อเดือนตุลาคม ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปีโดยลดลง 0.2% ซึ่งทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาอยู่ที่ 0.3%

ฟูจิอิทำนายว่าในราวเดือนกุมภาพันธ์ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.2% และอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะลงมาเหลือ 0.1%
กำลังโหลดความคิดเห็น