วันนี้ (7 ส.ค.) เวลา 08.30 น.นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เดินทางเข้าทำงานวันแรก โดยสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง ประกอบด้วย ศาลพระภูมิ พระประชาบดี ศาลพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวุฒิไชยเฉลิมลาภ กรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร ก่อนเข้าทำงานที่ห้องรัฐมนตรีใหม่ บริเวณชั้น 2 ของอาคารสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย มีนายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และผู้บริหารระดับสูงให้การต้อนรับ
นายอนุสรณ์ กล่าวถึงนโยบายการทำงานว่า เบื้องต้นจะเข้ามารับฟังและแก้ไขปัญหาการบริหารงานให้มีเอกภาพมากขึ้น เพราะตั้งแต่การปฏิรูประบบราชการและการปรับเปลี่ยนโครงสร้างกระทรวงตั้งแต่ปี 2545 อาจทำให้การทำงานแต่ละหน่วยไม่ไปทางเดียวกัน เนื่องจากมีที่มาจากคนละหน่วย จากนี้จะต้องให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน และจะต้องทำให้เหมาะสมกับชื่อกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ
ส่วนนโยบายเฉพาะหน้า จะเน้นไปที่การแก้ปัญหาเยาวชน โดยเฉพาะเรื่องการเล่นเกม ซึ่งจะสานต่องานจากเมื่อครั้งยังเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดยใช้เครือข่ายภาคประชาชน เช่น อาสาสมัครเข้ามาช่วยแก้ไข
นอกจากนี้ นายอนุสรณ์ กล่าวถึงนโยบายเรื่องบ้านเอื้ออาทร และบ้านมั่นคงที่กำลังมีปัญหาอยู่ว่าจะต้องตั้งอนุกรรมการขึ้นมาศึกษาปัญหาว่าเกิดปัญหาจากที่ใด เช่น การปฏิบัติไม่ถูกต้อง หรือนโยบายผิดพลาด ซึ่งบางครั้งข้าราชการกับผู้อยู่อาศัยอาจมองคนละมุม ดังนั้น จึงต้องศึกษาเพื่อหาข้อยุติก่อนตัดสินใจว่าจะดำเนินการต่อหรือไม่ ส่วนกรณีปัญหาความการทุจริต ไม่โปร่งใสจนมีการร้องเรียนข้าราชการใน พม.นั้นตนขอเวลาศึกษางานก่อนเพราะเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งใหม่
นายอนุสรณ์ กล่าวถึงนโยบายการทำงานว่า เบื้องต้นจะเข้ามารับฟังและแก้ไขปัญหาการบริหารงานให้มีเอกภาพมากขึ้น เพราะตั้งแต่การปฏิรูประบบราชการและการปรับเปลี่ยนโครงสร้างกระทรวงตั้งแต่ปี 2545 อาจทำให้การทำงานแต่ละหน่วยไม่ไปทางเดียวกัน เนื่องจากมีที่มาจากคนละหน่วย จากนี้จะต้องให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน และจะต้องทำให้เหมาะสมกับชื่อกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ
ส่วนนโยบายเฉพาะหน้า จะเน้นไปที่การแก้ปัญหาเยาวชน โดยเฉพาะเรื่องการเล่นเกม ซึ่งจะสานต่องานจากเมื่อครั้งยังเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดยใช้เครือข่ายภาคประชาชน เช่น อาสาสมัครเข้ามาช่วยแก้ไข
นอกจากนี้ นายอนุสรณ์ กล่าวถึงนโยบายเรื่องบ้านเอื้ออาทร และบ้านมั่นคงที่กำลังมีปัญหาอยู่ว่าจะต้องตั้งอนุกรรมการขึ้นมาศึกษาปัญหาว่าเกิดปัญหาจากที่ใด เช่น การปฏิบัติไม่ถูกต้อง หรือนโยบายผิดพลาด ซึ่งบางครั้งข้าราชการกับผู้อยู่อาศัยอาจมองคนละมุม ดังนั้น จึงต้องศึกษาเพื่อหาข้อยุติก่อนตัดสินใจว่าจะดำเนินการต่อหรือไม่ ส่วนกรณีปัญหาความการทุจริต ไม่โปร่งใสจนมีการร้องเรียนข้าราชการใน พม.นั้นตนขอเวลาศึกษางานก่อนเพราะเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งใหม่