xs
xsm
sm
md
lg

แกนนำพันธมิตรฯ แถลงประณาม "ม็อบถ่อย" จ.อุดรธานี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สนธิ- จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้านักการเมืองท้องถิ่นและพรรคการเมืองที่มีอำนาจรัฐอยู่ไม่ให้การสนับสนุน ที่สำคัญที่สุด ไม่ว่ากระทรวงมหาดไทย หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะต้องรับผิดชอบอย่างที่สุด เพราะจากวิดีโอก็จะเห็นได้ชัดว่าเจ้าหน้าที่รัฐนั้นทำทีห้ามแบบขอไปที ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะมาปกป้องหรือป้องกันประชาชน ทั้งๆ ที่กลุ่มผู้ที่มาชุมนุมที่อุดรธานีนั้น เป็นการชุมนุมเพื่อปราศรัย ของเราชุมนุมมา 61 วัน 31 คืน เราไม่เคยทำร้ายสิ่งของ ทำลายสิ่งของ เราชุมนุมด้วยความสงบ อหิงา เราถูกกลั่นแกล้งตลอดเวลา นี่เป็นผลงานของอันธพาลที่รัฐบาลให้การสนับสนุน
อุดรธานี ชัดเจน นายขวัญชัย ไพรพนา เป็นคนของพรรคพลังประชาชน เป็นดีเจ ที่โจมตีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาตลอด และกลุ่มชาวบ้านก็นำมาโดยน้องชายนายธีระชัย แสนแก้ว ซึ่งเป็นรัฐมนตรีอยู่ในรัฐบาลชุดนี้ ทุกอย่าง นายธีระชัย แสนแก้ว ก็ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ต้องรับผิดชอบในฐานะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้ออกมาปฏิเสธอย่างน่าอับอายขายหน้าที่สุดว่าไม่เกี่ยวกัน
การคุกคามเช่นนี้กำลังเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และกำลังก่อให้เกิดชนวนที่อาจจะก่อให้เกิดการนองเลือดได้ เพราะฝ่ายประชาชนที่ถูกกระทำนั้น อาจจะต้องหันเข้าหาวิธีการที่ต้องป้องกันตัวเอง และเมื่อวิธีการที่ต้องป้องกันตัวเองแล้ว ประชาชนที่ถูกกระทำที่มีความคั่งแค้นอยู่ทั่วประเทศไทย ถ้าพร้อมใจกันลุกฮือกันทั่วประเทศ ประเทศไทยจะต้องนองเลือดแน่ และการนองเลือดครั้งนี้ ถ้าเกิดขึ้น เกิดขึ้นเพราะรัฐบาลชุดนายสมัคร สุนทรเวช พรรคพลังประชาชน และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นผู้ที่ทำให้เกิดการนองเลือดขึ้นมา

จำลอง- ผมขอพูดเพิ่มเติมว่าการจัดการชุมนุมของพันธมิตรฯ ในต่างจังหวัดนั้น พันธมิตรฯ ที่อยู่ในต่างจังหวัดเขาคิดริเริ่มขึ้นเอง รวบรวมสมัครผู้คนขึ้นเอง โดยที่พันธมิตรฯ ส่วนกลางไม่ได้เข้าไปจัดการแต่อย่างใด แต่เนื่องจากพันธมิตรฯ พวกเราก็ทราบอยู่แล้วว่ามีจำนวนมากมายก่ายกอง เราไม่มีการจดลงทะเบียน มีรายชื่อ มีบัตรประจำตัว เราทำไม่ได้เพราะมีเป็นแสนๆ ล้านๆ คน เพราะงั้นใครก็ตามที่มีความเห็นตรงกันว่าในยุคนี้ ยามนี้ บ้านเมืองเกิดปัญหา เราควรจะใช้การชุมนุมอย่างสงบตามรัฐธรรมนูญ เราก็จัดให้มีกันขึ้น จะเห็นได้ชัดว่าเมื่อวานซืนนี้ อ.สมเกียรติ เพิ่งอ่านประกาศของพันธมิตรฯ ไป ว่าพื้นที่ไหนที่สุ่มเสี่ยง ที่เราไม่สามารถจะพึ่งพาตำรวจและเจ้าหน้าที่ของรัฐในการคุ้มครองความปลอดภัยเราตามกฎหมายได้ ก็อย่าจัด ให้มาจัดที่กรุงเทพฯ และวันนี้ที่คุณสนธิอ่านไปก็เพิ่มเติมมาอีกว่า ถ้าจะจัดก็ขอให้มาปรึกษาหารือกันก่อน ในฐานะที่เรามีประสบการณ์มายาวนาน ว่าการจัดควรจะเป็นอย่างไร จะได้ไม่พลาดต่อไปอีก
จะเห็นชัดว่าพันธมิตรฯ ส่วนกลางนั้นไม่สามารถจะไปควบคุมบังคับบัญชา สั่งห้ามเขาได้ ถ้าเขาจะจัด มันเป็นความริเริ่มซึ่งน่าดีใจ เพราะว่าเขาจัดนี่เขาก็เสีย เสียเงิน เสียแรง เสียเวลา เสียทุกสิ่งทุกอย่าง เราจะไปห้ามเขาก็ไม่ได้ เราได้แต่เพียงให้คำแนะนำเขาแล้วก็บอกกล่าวเขาไป มีการประกาศเป็นทางการไปเมื่อวานซืนนี้ก็ทำ แล้ววันนี้ก็มีประกาศเพิ่มเติมอีกว่า ยังไงก็ตามถ้ายังยืนยันว่าจะจัดอยู่ ก็ขอให้มา ส่งคนมาประสานงานกับเรา เพื่อเราจะได้ให้คำแนะนำไปว่าควรจะจัดอย่างไร ในฐานะมีประสบการณ์มากกว่า นี่คือสิ่งที่อยากจะเพิ่มเติมไป แล้วเราก็ไม่ปฏิเสธว่ามาจากพันธมิตรฯ เพราะว่าพันธมิตรฯ ก็เป็นกันได้ทั้งนั้น เป็นแสนๆ ล้านๆ คน แต่เราไม่ได้ลงมือไปทำเอง แล้วเราก็เห็นด้วยที่เขาจะทำ แต่เขาจะต้องดูจังหวะ จะต้องดูพื้นที่ ว่ามั่นใจได้หรือเปล่าว่าทางจังหวัด แล้วก็ทางตำรวจสามารถที่จะใช้กฎหมายมาคุ้มครองเรา เพราะอีกฝ่ายหนึ่งทำผิดกฎหมาย ไม่ใช่มาตีกันเองนะ ผู้สื่อข่าวหลายต่อหลายแห่งลงข่าวไปในทำนองว่าตีกัน มันไม่ใช่ เราอยู่เฉยๆ แล้วเขามาตีเรา เขาผิดนะ ไม่ใช่เราผิด

สนธิ- คือ ประชาชนมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ที่จะชุมนุมโดยสงบและสันติ เหมือนกับกลุ่ม นปก.อยากจะชุมนุมที่สนามหลวงก็ชุมนุมได้ ทุกๆ แห่งที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชุมนุมนั้น เราใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ สงบ สันติ แต่เราจะโดนกลุ่มซึ่งเป็นกุ๊ยอันธพาลของรัฐบาลยกพวกมา โดยความร่วมมือ ต้องระวังคำพูดนี้ ผมขอเน้นนะ "โดยความร่วมมือของเจ้าหน้าที่รัฐ" เพิกเฉย ละเลย ปล่อยให้พวกนี้เอาอาวุธมาทำร้ายประชาชน ก็อุปมาอุปไมยเหมือนกลุ่ม นปก.ที่ชุมนุมอยู่ที่สนามหลวง เมื่อกินเหล้าได้ที่แล้วก็ยกขบวนมาระรานการชุมนุมที่สะพานมัฆวานฯ เป็นครั้งๆ ไป ด้วยอาวุธเช่นกัน เพราะฉะนั้นแล้ว ลักษณะแบบนี้ เจ้าหน้าที่รัฐ เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่ควรจะต้องปฏิบัติ ผมเกรงว่าวันหนึ่งข้างหน้าประชาชนจะติดอาวุธและป้องกันตนเอง และเมื่อนั้น ผมเกรงว่าจะห้ามอะไรไม่อยู่แล้วนะครับ

ถาม

สนธิ- ท่านเป็นผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ท่านสามารถที่จะเรียกทหารออกมาป้องกัน ท่านไม่ได้ไปจับกุมใคร แต่ท่านสามารถจะป้องกันไม่ให้เหตุเกิดได้ เพราะว่านี่คือส่วนหนึ่งของความมั่นคงภายใน

สมเกียรติ- ผมอยากจะเรียนว่า รัฐบาลชุดนี้ได้สะท้อนภาพของการสนับสนุนแก๊งอันธพาลทางการเมือง ถ้าเราไม่ปฏิเสธเลย นายกรัฐมนตรีสมัคร ไม่เกี่ยวข้องทางใดทางหนึ่งกับเหตุการณ์หฤโหดถึง 3 ครั้ง ในประเทศไทย ที่ต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ เหตุการณ์แรกก็คือเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2516 ซึ่งคุณสมัครเกี่ยวข้องในหน่วยโฆษณาการ ในวิทยุยานเกราะ ที่ปลุกระดมมวลชนให้ประชาชนลุกขึ้นฆ่ากัน และครั้งที่ 2 ในการขับไล่โดยสมาพันธ์ประชาธิปไตย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และคณะ ในช่วงนั้นรัฐบาลเผด็จการ รสช. สุจินดา คราประยูร ก็มีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นรองนายกรัฐมนตรี แล้วครั้งนี้ตัวเขาได้อำนาจในฐานะรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ มาเป็นนายกรัฐมนตรีเอง และที่สำคัญที่ต้องเน้นเป็นพิเศษก็คือว่า เป็นประธานกรรมการตำรวจแห่งชาติ ที่อยู่หลังฉากของการฟ้องร้องแกนนำพันธมิตรฯ และที่ร้ายกาจที่สุดก็คือว่า ไม่สามารถปกครองและคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนได้ ตามที่รัฐบาลต้องทำหน้าที่ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ คุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน และในขณะเดียวกันยังมีท่าทีของรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ ทั้งตัวนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในเชิงที่ไม่ห้ามปราม และสนับสนุนด้วย
บัญชีเลือด 3 ครั้งนี้ ประชาชนก็มีความรู้สึกเดือดแค้นเป็นธรรมดา แม้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะยืนหยัดในเรื่องอหิงสา การชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ แต่พวกเขาก็มีจิตวิญญาณของนักต่อสู้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นการกระทำเลยเถิดในลักษณะที่หฤโหดและป่าเถื่อนนี้ ไม่รู้จะยับยั้งพลังของผู้รักชาติและประชาธิปไตย เทิดทูนสถาบัน ได้แค่ไหน อันนี้เป็นภาวการณ์ที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่เรากำลังจับตามองสิ่งที่อยากจะพูดต่อไปนี้ว่า เฝ้าดูองค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ว่ามีปฏิกิริยาเช่นใด เพราะองค์กรนี้เป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ที่มี ศ.เสน่ห์ จามริก เป็นประธานอยู่ในขณะนี้ เข้าใจว่าคงจะต้องมีปฏิกิริยาอะไรต่อพฤติกรรมอันอุกอาจ โหดร้าย ป่าเถื่อน ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จำเป็นต้องเสนอภาพนี้ให้แก่องค์กรสิทธิมนุษยชนทั่วโลก โดยเฉพาะองค์กรในระดับสากล รับทราบว่าการต่อสู้ของเรารัฐบาลกำลังเข้าสู่ภาวะสุนัขจนตรอก แล้วใช้กลุ่มอันธพาลเป็นฐานที่มั่นสุดท้าย เพราะขณะนี้เขาไม่สามารถครองใจประชาชนอยู่ได้แล้ว เขาไม่สามารถบริหารประเทศได้อีกแล้ว เขาเหลือกลุ่มเดียวคืออันธพาลทางการเมืองที่เขาจัดตั้งขึ้นมา เพราะฉะนั้นอันธพาลทางการเมืองมักจะเกิดขึ้นยุคแล้วยุคเล่า และก็สูญหายไปในที่สุด เมื่อสภาพการจ้างวานและรางวัลของอันธพาลทางการเมืองก็คือการถูกกฎหมายเล่นงานอย่างถึงที่สุด ซึ่งในครั้งนี้เราก็จะดำเนินการเหมือน "โอ๋ สืบ 6" เราดำเนินการทั้งคดีอาญา ในมาตรา 157 ที่ศาลอาญา และก็ดำเนินการที่ ป.ป.ช.ด้วย ในกรณีที่ โอ๋ สืบ 6 ปล่อยให้ประชาชนทำร้ายร่างกายที่สยามพารากอน เมื่อ 2 ปีก่อน

จำลอง- ผมเติมอีกนิดหนึ่ง เมื่อกี้ผู้สื่อข่าวได้เห็นว่าเป็นการทำร้ายร่างกายอย่างโหดเหี้ยม ขนาดล้มไปแล้ว ฟุบไปแล้ว ยังกระหน่ำอีก ซึ่งไม่มีที่ไหนใครเขาทำกัน แม้ในสนามรบก็ไม่ทำ นี่ทำกันถึงขนาดนี้ แล้วถ้าตำรวจซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการใช้กฎหมาย ป้องกันไม่ให้คนร้ายมาทำลายคนดี แล้วไม่ทำตามหน้าที่ ซึ่งมันจะนำไปสู่การนองเลือดในอนาคตได้ มันไม่ใช่พูดเกินเลยนะครับ เมื่อตำรวจไม่ทำแล้วถามว่าใครจะมาช่วย ก็มีกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน เพราะนี่เป็นการกระทบต่อความมั่นคงภายในอย่างชัดเจนเลย เราถึงมีอยู่ข้อหนึ่งขอให้ พล.อ.อนุพงษ์ อย่าวางเฉย เพราะเป็นหน้าที่ของท่าน เมื่อตำรวจไม่ทำท่านก็ต้องทำ เพราะอะไร เพราะตำรวจกับทหารเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือถืออาวุธได้โดยเปิดเผย ใช้อาวุธได้ คนอื่นเขาไม่มีสิทธินะ ข้าราชการที่อื่น หน่วยงานอื่น ไม่มีสิทธิ เมื่อหน่วยงานหนึ่งที่มีทั้งคน ทั้งอาวุธ ไม่จัดการให้เกิดความสงบเรียบร้อย มันก็ต้องมาเป็นหน้าที่ของทหาร ในนามของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ก็ต้องทำอยู่แล้ว นี่ชัดเจนมากปฏิเสธไม่ได้

สนธิ- ขอเพิ่มเติมนิดก่อนมอบให้คุณสมศักดิ์ โกศัยสุข เมื่อเช้านี้นายขวัญชัย ไพรพนา ได้ออกโทรทัศน์ช่อง 3 พร้อมกับนายเจริญ ซึ่งเป็นผู้จัดเวที นายขวัญชัย ได้ยอมรับต่อหน้าพิธีกร และออกโทรทัศน์ทั่วประเทศ ว่าตัวเองเป็นคนสั่งการ เพราะตัวเองพูดว่า ก็สั่งไม่ให้จัดแล้วยังมาจัด ผมก็ต้องสั่งลุย นะครับ อันนี้เห็นชัด แต่ตำรวจก็ยังนั่งเฉย เพราะฉะนั้นอีกหน่อยสังคมไทยจะอยู่ในยุคที่เรียกว่า ใครเป็นลูกน้องคนมีอำนาจ ก็สั่งทำร้ายคนได้ สั่งฆ่าได้ มาออกทีวีรับต่อหน้า รับต่อหน้า ตำรวจก็ยังนิ่งเฉย แล้วนี่คือคำตอบครับท่านสื่อมวลชน พอจะได้คำตอบหรือยังว่าทำไมพวกผมถึงต้องลุกขึ้นสู้

จำลอง- น่าคิดนะ รับต่อหน้านั่นแสดงว่าเขาเป็นเจ้าของจังหวัดใช่หรือเปล่า

สนธิ- เขาทำตัวเป็นเจ้าของจังหวัด

จำลอง- เขาทำยังกับเจ้าของบ้าน บอกไม่ให้เข้ามา ยังเข้ามาอีก

สนธิ- ไม่ให้เข้ามา ยังเข้ามา

จำลอง- อันนี้ไม่ใช่นะ จังหวัดไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง ไม่มีใครเป็นเจ้าของจังหวัด แม้กระทั่งผู้ว่าราชการจังหวัดก็เป็นเจ้าของจังหวัดไม่ได้ เขาเหิมเกริมถึงขนาดนั้นนะ

สนธิ- ตอนนี้เป็นคำตอบที่ชัดเจนแล้วว่าทำไมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต้องลุกขึ้นมาสู้

สมเกียรติ- ผมอยากให้ข้อมูลเพิ่มเติม นายขวัญชัย ไพรพนา ขอให้สื่อมวลชนทั้งหลายไปตรวจสอบว่า รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ได้แต่งตั้งเขาเป็นประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รับเงินเดือน 40,000 กว่าบาทหรือไม่ เป็นข้าราชการการเมืองหรือไม่ ที่ปูนบำเหน็จก่อนหน้านี้ ขอให้ไปตรวจสอบดู แล้วพฤติกรรมเหิมเกริมเหล่านี้ ถ้าเราอ่านแถลงการณ์ในข้อ 3 เราจะเห็นว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดของนายกรัฐมนตรี รู้เห็นเป็นใจ ก็เท่ากับ ถ้าเราดูภาพที่ปรากฏก็คือว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกให้คนฆ่ากัน ให้ฝ่ายหนึ่ง แล้วสื่อมวลชนจำพวกหนึ่งก็ลงว่าตีกัน ทั้งๆ ที่ไม่ดูว่าผู้บาดเจ็บคือใครเลย ผู้บาดเจ็บคือพันธมิตรฯ ทั้งหมด แต่ก็บิดเบือนข้อเท็จจริง ไปลงว่าตีกัน จำนวนมาก ซึ่งเราได้กรองข่าวแล้วนะครับ

สมศักดิ์- ตอนที่แถลงการณ์พันธมิตรฯ ฉบับที่ 3 ที่เราบอกว่ารัฐบาลนี้จะสร้างรัฐตำรวจ แล้วตอนนั้นมีสื่อบางคนก็บอกว่าจะเป็นไปได้ยังไง วันนี้เราจะเห็นว่า เมื่อหลังจากที่เขาปลด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ก็เปลี่ยนมา แล้วก็ถูกรังแกมาเป็นลำดับ แล้วที่อยากจะให้ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว คุณสมัคร สุนทรเวช มาพูดรายการสนทนาประสาสมัคร ว่า เขาจะต้องฆ่าคืน แต่ว่าพันธมิตรฯ ดำเนินการกับเขาในแง่ของเหตุผลว่าเขากระทำผิดอะไรในฐานะเป็นรัฐบาล ไม่ว่าเรื่องเขาพระวิหาร ซึ่งมีศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นศาลสูงสุด ตัดสินว่าเขาผิดแล้ว ซึ่งไม่มีรัฐบาลที่ไหนในโลกจะบริหารประเทศต่อไปได้ ที่ทำผิดกฎหมายโดยคำสั่งคำพิพากษาของศาลสูงสุด ที่ผูกพันกับองค์กรของรัฐบาลด้วย ฉะนั้นหลังจากที่คุณสมัครพูด กับคุณขวัญชัยนี่ก็รู้อยู่แล้ว เมื่อกี้ อ.สมเกียรติ ก็พูด เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกัน แล้วก็เกิดเหตุการณ์รุนแรง
ซึ่งเราเห็นในภาพแล้ว ซึ่งเรียกว่าป่าเถื่อนมาก ฉะนั้นผมอยากจะให้พี่น้องสื่อมวลชนได้ตั้งข้อสังเกตว่า การใช้ความรุนแรงนั้นไม่เคยเริ่มต้นจากฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งเราใช้สันติวิธีโดยตลอด การชุมนุมโดยสงบ โดยเปิดเผย โดยปราศจากอาวุธ ทั่วโลก รัฐธรรมนูญไทยจะเขียนหรือไม่เขียนก็ไม่สำคัญ ทุกคนมีสิทธิ์ แต่รัฐธรรมนูญไทยก็เขียนเอาไว้ และเราชุมนุมโดยสงบในสิทธิ์ของเรา สังเกตไม่เคยมีเรื่อง จะมีเรื่องก็แต่มีคนอื่นเข้ามาก่อกวน ซึ่งอันนี้ล่ะถือว่าเป็นรัฐบาลที่หมดความชอบธรรม เป็นรัฐบาลอันธพาล ที่เลี้ยงอันธพาลไว้ทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งอยากจะให้สื่อมวลชนได้เข้าใจว่า เมื่อเสรีภาพของประชาชน เมื่อรัฐบาลทำไม่ถูก แล้วเราก็ใช้สิทธิ์ทำหน้าที่ในฐานะพลเมืองดี ในการปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย และการเปิดโปงการโกง การทุจริต การคอร์รัปชั่น ซึ่งก็ถูกเปิดเผยมาเป็นลำดับๆๆ ซึ่งสิ่งที่ทำไปก็เป็นประโยชน์กับประชาชนทุกคน ดังนั้นระหว่างรัฐบาลซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบรักษาประโยชน์ของประเทศกลับไม่ได้ทำ แต่กลับไปรับผิดชอบพวกกันเอง แล้วก็ตั้งอันธพาลกวนเมืองกันขึ้นมา
ซึ่งในเรื่องเหล่านี้ที่บอกว่าทางฝ่ายความมั่นคง หรือฝ่ายทหาร ต้องคิด เพราะว่าบัดนี้ตำรวจนั้นได้แสดงหลายครั้งหลายหนแล้วว่า ไม่ได้รับผิดชอบหน้าที่ในการดูแลความสงบสุขและเรียบร้อยของประชาชน ดังเหตุป่าเถื่อนที่เกิดขึ้นที่ จ.อุดรฯ อันนั้นมันถึงคราวที่จะต้องเข้ามาคลี่คลายเข้ามาแก้ไขปัญหา และแน่นอนนะครับ ผู้ที่ชุมนุมเอง โดยหลักแล้วก็ต้องมีสิทธิ์ในการป้องกันตัวเอง ซึ่งประมวลกฎหมายอาญา ก็ให้สิทธิ์ในการที่เมื่อใครมารังแกเราจะป้องกันตัวเองได้ ซึ่งอย่าไปลงลักษณะที่บอกว่า ไปตีอะไรกัน ซึ่งพวกเรายืนยันตลอดว่าสันติวิธีในการต่อสู้ของเรา เพื่อใช้เหตุใช้ผล ให้ประชาชนได้ตื่น ได้เรียนรู้เรื่องความสกปรก ความไม่ถูกต้อง แล้วก็ได้มีจุดยืนอยู่กับผลประโยชน์ของคนส่วนรวม
ดังนั้นก็ขอให้พี่น้องสื่อมวลชนได้เห็นว่าใครป่าเถื่อน ไม่ป่าเถื่อน แล้วก็อย่าเอาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไปลงว่ามาตี มาทะเลาะกัน ซึ่งเราไม่ใช่ประเภทอย่างนั้น ซึ่งเราพูดเปิดโปงความชั่วร้ายของนักการเมืองมาตลอด เพื่อให้ประชาชนได้ติดตามและเป็นประโยชน์กับประชาชน กับประเทศชาติมาโดยตลอด

พิภพ- ผมมี 2-3 ประเด็น ในฐานะที่เป็นผู้มีประสบการณ์จากเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ 6 ตุลาฯ และพฤษภาฯ อย่างที่ อ.สมเกียรติ ได้นำไปแล้ว ว่า เราตอนนี้ สื่อมวลชน และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และองค์กรสิทธิมนุษยชน ต้องร่วมมือกันระงับความรุนแรงอันนี้ สำหรับสื่อมวลชนนี่คือการเสนอข่าว ถ้าสื่อมวลชนเสนอข่าวพลาด จะทำให้รัฐบาลได้ใจในการที่จะเป็นคนวางแผนการใช้ความรุนแรง คำว่าเสนอข่าวพลาดก็คืออะไร แทนที่จะเสนอข่าวว่า ฝ่ายรัฐเป็นผู้ที่ใช้ความรุนแรงเข้าไปกระทำกับพันธมิตรฯ ที่กำลังชุมนุมอยู่ แต่กลับไปเสนอข่าวเหมือนว่า พันธมิตรฯ ในจังหวัดต่างๆ กำลังปะทะกับฝ่ายนั้น คือถ้ามีการสื่อความหมายอย่างนี้จะเป็นการส่งเสริมให้ฝ่ายรัฐได้ใจ อันนี้ข้อ 1 ฉะนั้นถ้าไม่มีการเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา ผมคิดว่าความรุนแรงก็จะขยายตัวไปจังหวัดต่างๆ อันที่ 2 ชัดเจนว่าสื่อมวลชนต้องเปิดโปงในเรื่องแผนของรัฐ วางแผนในการใช้ความรุนแรง เป็นตามลำดับมาอย่างที่คุณสนธิได้ลำดับความ รวมทั้งในซีดีด้วย อันนี้จะต้องให้เห็น ถ้าไม่ทำตรงนี้ให้เห็น จะยับยั้งรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้
อันที่ 3 ต้องยอมรับกันว่านายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวช มีความเกี่ยวข้องกับเหตุความรุนแรงมา 2 เหตุการณ์ และกำลังสร้างเหตุความรุนแรงในครั้งสุดท้าย ก็คือในสมัยที่ตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรี อันนี้จะต้องระวัง ว่าเรากำลังมีนายกรัฐมนตรีที่ผ่านการสนับสนุนการใช้ความรุนแรงในประวัติศาสตร์มาแล้ว และกำลังเริ่มต้นอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะเป็นครั้งสุดท้ายของเขาในจุดจบของเขา อันนี้จะต้องระมัดระวัง อันที่ 3 ที่จะเรียกร้อง พล.อ.อนุพงษ์ อันนี้ก็จะต้องเข้าใจว่าเราไม่ได้เรียกร้องทหารนะ เมื่อแนวโน้มความรุนแรงมันรุนแรงขึ้น แล้วตำรวจไม่สามารถปฏิบัติการได้ ไม่ใช่ไม่สามารถปฏิบัติการได้ สามารถปฏิบัติการระงับความรุนแรงได้ แต่ไม่กระทำ ดังในรูปก็เห็นแล้ว ผมว่าเป็นประเด็นซึ่งผู้อำนวยการรักษาความสงบภายใน จะต้องออกมาดูแลเรื่องนี้ ถ้าความรุนแรงบานปลายไปจนกระทั่งถึงควบคุมไม่ได้ จะเกิดมิคสัญญี อันนี้ก็อยากจะให้ถือเป็นความร่วมมือกัน

สมศักดิ์- เพราะว่าผู้ว่าราชการจังหวัดก็ขึ้นกับมหาดไทย กับเฉลิม ตำรวจนี่ก็ขึ้นกับนายกรัฐมนตรี คุณสมัคร เราก็จะเห็นว่าสองอย่างนี้จะไปในทางเดียวกันตลอด ที่ก่อให้เกิดความรุนแรง และมาละเมิดสิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชนที่เขาใช้สิทธิ์โดยสงบ ตามระบอบประชาธิปไตย

ถาม-

สนธิ- ผมคิดว่าเขามารักษาความปลอดภัยให้ประชาชน เพื่อประชาชนได้มีสิทธิในการแสดงออก อันนั้นเป็นจุดแรกที่เขาสามารถทำได้ แต่ถ้าเขาจะรอให้มีการนองเลือดเพื่อออกนั้น ผมคิดว่าก็เป็นความคิดที่ชั่วร้าย

ถาม-

สนธิ- ผมชี้แจงให้ฟังแล้วนะทหารอาจจะไม่มีอำนาจทางกฎหมายที่จะไปจับกุมใคร แต่ทหารมีอำนาจที่จะมารักษาความปลอดภัยได้ แล้วคุณสมศักดิ์ได้พูดไปชัดเจนแล้ว เมื่อกลไกของรัฐ คือตำรวจ และฝ่ายปกครอง ไม่ทำหน้าที่นี้ ทหารจะนั่งอยู่นิ่งเฉยหรือ ในฐานะตัวเองก็เป็น กอ.รมน. ผอ.กอ.รมน. ซึ่งชื่อก็บอกบ่งชัดอยู่แล้วเป็นกองกำลังรักษาความมั่นคงภายใน

สมเกียรติ- ผมพูดเรื่องทหาร 2 ข้อนะครับ ความจริงท่านจำลองอาจจะพูดได้ดีกว่าผม แต่ว่าเรื่องแรกก็คือ ทหารจะปล่อยให้ประชาชนเจ็บและตายมากกว่านี้หรือ ถึงจะออกมา ท่านทนอยู่ในกองทัพได้อย่างไร ในเมื่อรัฐตำรวจได้เป็นของรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติแล้ว กระทรวงมหาดไทย กลไกผู้ว่าฯ นายอำเภอ ปลัดอำเภอ ได้เป็นของรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติแล้ว มันไม่มีองค์กรใดๆ ที่จะมารักษาความปลอดภัยของประชาชนได้แล้ว อันที่ 2 หากทหารกรุณาไปอ่านรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 รัฐต้องจัดให้มีกำลังทหารเพื่อรักษาความปลอดภัยของชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์ การปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพราะฉะนั้นทหารจะปฏิเสธรัฐธรรมนูญได้หรือ ในขณะนี้กองทัพเป็นฐานที่มั่นเดียวก่อนจะถึงสถาบันสำคัญของชาติ เพราะฉะนั้นความจำเป็นนี้จึงเป็นความจำเป็นที่มิอาจจะหลีกเลี่ยงได้

ถาม-

สนธิ- เราจะรวบรวมหลักฐาน ตอนนี้ผมเข้าใจว่าสภาทนายความกำลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่ จะต้องเข้ามาช่วย เราจะทำทันทีที่มีโอกาสทันทีเลยครับ แล้วก็ยื่นกับ ป.ป.ช.

ถาม-

สนธิ- เราจะเอาประชาชนเข้ามาเป็นโจทก์ แต่ว่าเราจะช่วยจัดหาทนายและดำเนินการให้ แล้วยื่น ป.ป.ช.ให้หมดทุกๆ จังหวัดที่สามารถจะหาผู้ที่เข้าข่าย 157 ได้หมด รวมไปจนถึงยัง อุดรธานี ชัดเจน อุดรธานี นี่ตั้งแต่ผู้บังคับการตำรวจจังหวัด ผู้กำกับเขตอำเภอเมือง และภาพตำรวจบางคนที่อยู่ในท้องที่ และคนที่เกี่ยวข้อง ผู้ว่าราชการจังหวัดก็ต้องโดนด้วย โยงไปจนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายกรัฐมนตรีด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น